สวัสดีน้องๆรุ่น 49 ทุกคนนะครับ (อาจรวมไปถึงรุ่นต่อจากนี้ด้วย)
พี่ชื่อ บุ๊งนะครับ เป็น AFSer USA#48
ทีแรกพี่ตั้งใจจะเขียน แต่คิดไปคิดมา ขี้เกียจพิมพ์เลยไม่เขียนดีกว่า
แต่เห็นหลายคนเริ่มมีปัญหากับครอบครัว พี่เลยว่ามานั่งเขียนให้ดีกว่า
===============
เข้าเรื่องดีกว่า
หลายๆคนที่สอบติดแล้ว ก็คงจะต้องอยากไปใช่ไหมครับ
พี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ขออนุญาติเล่าประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึง
ตอนที่พี่อยู่ ม.4 พี่ก็ลองไปสอบ afs ดูเหมือนน้องๆนั่นแหละ
ตอนสมัครสอบพี่ก็สัญญาปากเปล่ากับแม่ไว้แล้วว่า ถึงติดพี่ก็ไม่ไป
เพราะพี่รู้ดีว่า ค่าใช้จ่ายมันสูงมาก แล้วครอบครัวพี่ก็ไม่ใช่จะรวยอะไร
จนกระทั่งพี่สอบได้ตัวสำรอง พี่ก็ไปบอกแม่ ว่าพี่สอบได้
แม่พี่ก็ดีใจ แล้วแม่ก็ถามพี่ว่า พี่อยากไปไหม
ซึ่งจริงๆในใจตอนนั้นพี่อยากไปมาก แต่ด้วยความที่เคยพูดกับแม่ไว้แล้วว่า
ถึงติดก็ไม่ไป พี่เลยบอกแม่กรายๆว่า ถ้ามีโอกาสก็จะไป
จนกระทั่งวันที่เจ้าหน้าที่ afs เค้าโทรมาหาแม่พี่ บอกว่าพี่มีสิทธิ์ได้ไป
อเมริกา จีน เยอรมัน นอร์เวย์ โดมินิกัน แล้วให้เวลาพี่เลือกแค่ 24ชม
เพราะมีคนต่อคิวพี่อยู่ พอตอนเช้าของอีกวันแม่ก็พูดกับพี่ว่า อยากไปไหม
แม่ถามจริงๆนะ ว่าอยากไปไหม พี่เลยตอบไปเลยว่า อยาก
เท่านั้นแหละ แม่ก็โทรกลับไปหา afs แล้ว confirm ว่าพี่จะไป usa
เรื่องราวมันดูเหมือนจะราบรื่นใช่ไหมครับ
แต่อุปสรรคมันก็เริ่มตามมาแล้ว
คืออย่างที่พี่บอกว่า ครอบครัวพี่ไม่ได้รวยอะไร
แล้วแม่พี่ก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากขนาดนั้น
แม่เลยต้องไปขอยืมเงินจากพ่อพี่
ซึ่งพอพ่อรู้เรื่องนี้ พ่อพี่ปฏิเสธ ทันควันเลย
พ่อบอกว่าจะไปทำไม มีแต่เด็กที่มีปัญหาเท่านั้นแหละ ที่ต้องไปเรียนเมืองนอก
อีกอย่าง afs นี่มันโครงการอะไร มันหลอกกินเงินเหมือนพวกพาไปทำงานต่างประเทศรึเปล่า
พูดง่ายๆคือหัวเด็ดตีนขาดยังไง พ่อก็ไม่ให้ไป
พอลอง search หาข้อมูลดู ปรากฏว่า รุ่นพี่ส่วนใหญ่ในเว็บก็บอกว่า
วันปฐมนิเทศน์ช่วยได้ ซึ่งพี่ก็หวังจะให้มันเป็นแบบนั้น
ซึ่งในวันนั้นพี่เอาไปทั้งพ่อและแม่เลย (เสียอีก 700 T__T)
พอกลับมาบ้าน ปรากฏว่าที่ไปปฐมนิเทศน์นั้น มีค่าเท่ากับศูนย์
พ่อยังคงไม่รับฟังอะไรเหมือนเดิม
มาตราการสุดท้ายที่ใช้ก็คือ
ไปหาบุคคลที่พ่อเคารพ
มาคุยกะพ่อ ทำความเข้าใจอะไรประมาณนี้
สุดท้ายพ่อก็ยอมให้ไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะความเกรงใจด้วยกระมัง
เล่าเรื่องตัวเองมาซะยืดยาวแล้ว
ขอสรุปหน่อยละกัน
อย่าหวังว่าการปฐมนิเทศน์จะเปลี่ยนใจผู้ปกครองของท่านได้
บางทีที่เค้าไม่ให้ไป อาจมีเหตุผลมากกว่านั้น (ไม่รวมกรณีเรานะ)
คือบางที ที่บ้านน้องอาจจะไม่พร้อมทางด้านการเงินก็ได้
แต่ถ้าเป็นเหตุผลอื่น ที่ไม่ใช่เรื่องเงิน โดยส่วนตัวพี่คิดว่าเป็นเรื่องที่คุยกันได้
ค่อยๆอธิบายให้เค้าเข้าใจ ว่าน้องไปทำไม แล้วจะได้อะไรกลับมา
ผู้ปกครองบางคนคิดว่ามันเป็นการเสียเวลา
และเสียเงินไปเปล่าประโยชน์ การเสียเวลาพี่คิดว่ามันไม่เสียเวลาหรอก
เรื่องเรียน มันเป็นเรื่องที่ตามกันได้ แต่การที่จะอยู่เมืองนอก ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน
มันไม่ใช่ว่ามีเงิน มีตั๋วเครื่องบิน แล้วมันจะทำได้ซะเมื่อไรละ
ขอให้น้องๆพี่ผู้ปกครองคาดคั้นไม่ให้ไป
ลองคุยกันดีๆ ทำความเข้าใจกันดีๆ ว่าเหตุผลอะไร
ทำไมถึงไม่ให้ไป แต่สุดท้าย ถ้าพ่อแม่เค้าไม่ให้ไป ก็อย่าไปโกรธเค้า
พี่เชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลลึกๆอยู่นั้นแหละ
ปล.เหมือนกระทู้เล่าเรื่องตัวเองยังไงไม่รู้ 555+
ปล2.หวังว่าจะมีสาระ+ประโยชน์บ้างนะ อิอิ