Author Topic: 6เพลงชาติที่น่ากลัวที่สุดในโลก O_O?  (Read 4179 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline underconstructionz

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 316
  • Gender: Female
  • @ Durham, North Carolina
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #48 (2009-2010)
เอามาจาก http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1466370 :)


เพลงชาติ หมายถึงบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้น เพื่อปลุกเร้าให้หวนระลึกถึงหรือสรรเสริญประวัติศาสตร์ชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ หรือการต่อสู้ของชนในชาติ โดยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลของชาตินั้น ๆ อย่างเป็นทางการ หรือความตกลงใจร่วมกันของประชาชนในชาติว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงประจำชาติของตน
                แน่นอนครับว่าเนื้อหาเนื้อร้องของเพลงนั้นค่อนข้างแสดงถึงความรักชาติ ปลุกใจให้เราคึกเหิม และวันนี้ผมมีเพลงชาติถึง 6 ชาติมาให้ฟังกัน ซึ่งเนื้อเรื่องและเนื้อหาของมันนั้นฟังแล้วน่าขนลุก น่ากลัว ซึ่งบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ของชาตินั้นๆ เป็นอย่างดี...........

                (ปล. เหลือเชื่อมากๆ ครับ ไม่มีเพลงเกาหลีเหนือ, อีรัก, จีน, โซมาเลีย, ลิเบีย หรือเพลงที่เป็น 10 ประเทศอันตรายติดอันดับเลย ส่วนมากมีแต่ประเทศพัฒนาและสงบทั้งนั้น)

                (ปล. เนื้อเพลงผมแปลคร่าวๆ นะครับอาจมีผิดบ้างไม่แน่ใจเหมือนกัน คนมันไม่เก่งอังกฤษนี้หว่า แต่มันใจรัก คนแปลปอก็ไม่อยู่ เลยมานั่งแปลคนเดียว)+ +


                อันดับ 6 Algeria - "Qassaman"/"We Pledge"

(ฟังได้ที่ http://jv.wikipedia.org/wiki/Qassaman)

 

ประเทศแอลจีเรีย(Algeria) ประเทศบ้านเกิดของนักฟุตบอลชื่อดังซีดานไงครับ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่การปกครองของฝรั่งเศส ซึ่งคนในประเทศไม่ชอบเท่าไหร่เลยทำสงครามกองโจรต่อต้านฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง จนฝรั่งเศสยอมถอนตัวจากแอลจีเรีย จากนั้นก็มีการปฏิวัติรัฐประหารอยู่บ่อย ๆ และประเทศยังมีคงปัญหาเรื่องเชื้อชาติเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน

ส่วนเนื้อเพลง " Qassaman " แปลเป็นไทยว่าคำปฏิญาณ เขียนใน 1956  โดย Moufdi Zakaria  เป็นเพลงชาติที่ใช้มายาวนาน10 ปี โดยผู้วชาญเพลงในประเทศมาช่วยกันออกความคิดเห็นช่วยกันแต่ง ซึ่งเนื้อหาของเพลงนั้นค่อนข้างออกมารุนแรง? การทำลาย? การนองเลือด? และยิงด้วยปืนกล? และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ

 “We swear by the lightning that destroys, By the streams of generous blood being shed" เราขอสาบานด้วยอำนาจการทำลายราวสายฟ้า ด้วยเลือดที่ไหลราวกับสายน้ำ

"When we spoke, none listened to us, So we have taken the noise of gunpowder as our rhythm, And the sound of machine guns as our melody" เมื่อเราบอกกล่าว ถ้าไม่มีผู้ใดฟังเรา ดังนั้นเราจึงต้องใช้เสียงปืนเป็นจังหวะของชีวิตพวก และเสียงจากปืนคือเสียงดนตรีของพวกเรา

 

อันดับ  5. Italy - "Il Canto degli Italiani"/"The Song of the Italians"

(ฟังได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Il_Canto_degli_Italiani)

 

ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ของเพลงชาติเกี่ยวกับอิตาลี มักเศร้าระทมจนกระทั้ง จูเซปเป ฟอร์ตูนีโน ฟรันเชสโก แวร์ดี (Giuseppe Verdi) เป็นคีตกวีบทเพลงประกอบโอเปรา ชาวอิตาลี (ค.ศ. 1813 – 1901(ได้แต่งเพลงที่ชื่อ "Il Canto degli Italiani"แปลเป็นไทยคือ" เราพร้อมเพื่อตาย!"ซึ่งเขาแต่ในช่วงที่ในขณะที่นครมิลาน พ่ายแพ้และถูกจักรวรรดิออสเตรียเข้ายึดครอง แวร์ดีได้ประพันธ์โอเปร่าเรื่อง Il Corsaro ขึ้น เพื่อให้ปลุกใจให้อิตาลีเป็นอิสรภาพจากประเทศออสเตรียในปี พ.ศ. 2390 และนำมาใช้เป็นเพลงชาติในปี พ.ศ. 2489  และพัฒนาเป็นเพลงชาติในที่สุด และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ

"Mercenary swords, they're feeble reeds. The Austrian eagle has already lost its plumes. The blood of Italy and the Polish blood it drank, along with the Cossack. But it burned its heart."ทหารรับจ้างจะทำงานเพื่อเงินและรางวัลเท่านั้น  เราอ่อนแอราวนกอินทรีย์ที่สูญสิ้นปีก ชาวคอซ-เซ็คชอบดื่มเลือดของอิตาลี่และโปแลนด์ มันทำให้เราแสบหัวใจ

 

 

                อันดับ 4. Hungary - "Himnusz/Hymn"

                ฟังเพลงได้ที่ http:// www.nationalanthems.info/hu.txt

 

แต่งโดย Kölcsey Ferenc ประเทศฮังการีนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประวัติอย่างยาวนานมาตั้งแต่ในตอนศตวรรษที่ 9 และกล่าวจะมาเป็นประเทศ ฮังการีผ่านร้อนผ่านหวามมาเยอะเลยครับ ทำสงครามโลก สงครามเย็น สงครามกลางเมืองที่แสนโหดร้าย ผู้บริสุทธิ์ถูกยิงไม่เว้นวัน

ถูกต้องเพลงสดุดีนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อให้พลเมืองของประเทศทั้งหลายจับอาวุธขึ้น ต่อสู้ต่อต้านการกดขี่, ละเมิด, หรืออะไรก็ตามที่เป็นภัยคุกคาม และเพลง Himnusz มันเหนือกว่านั้น!! และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ

"No freedom's flowers return, from the spilt blood of the dead, and the tears of slavery burn, which the eyes of orphans shed."ไม่มีดอกไม่แห่งเสรีภาพหวนคืนมา จากเลือดที่สาดกระเด็นของเหล่าวายชน และหยาดน้ำตากลายเป็นทาสจากการเผาไหม้ ความเคียดแค้นที่สุมอกที่หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเหล่าเด็กกำพร้า

 

อันดับ 3. Turkey - "?stiklal Mar??/Independence March"

(http://en.wikipedia.org/wiki/%C4%B0stikl%C3%A2l_Mar%C5%9F%C4%B1)

               

“?stiklal Mar??”แปลว่าอิสรภาพ เขียนโดย Osman Zeki Üngör  ใช้อย่างเป็นทางการทางการ 12 มีนาคม  1921  เป็นเพลงกระตุ้นสำหรับการต่อสู้ในสงครามของตุรกีเพื่อรับอิสรภาพและเป็นเพลงสดุดีกล้าหาญสำหรับสาธารณรัฐที่ตั้งขึ้นด้วย ความรักอิสรภาพ, ศรัทธา, บรรลุผล,  ความหวัง และการอุทิศตัวให้สูงศักดิ์ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ตุรกีต้องเผชิญการรุกรานของยุโรปและการดูถูกดูแคลน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ใส่เรื่องราวเหล่านั้นเขาไปในเพลงชาติ ที่แสดงให้เห็นว่าใครมาแหยมประเทศอั๊วมันต้องตาย และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ

" I' m  like  the  roaring  flood;   powerful  and  independent,   I' ll  tear  apart  mountains,   exceed  the  heavens  and  still  gush  out! "ฉันเหมือนน้ำท่วม ที่มีเสียงคำราม ทรงพลัง และอิสระ ฉันจะฉีกภูเขาอย่างละส่วน กินท้องฟ้า และทะลักออกมา!

" Render  your  chest  as  armor  and  your  body  as  trench! " "หน้าอกของฉันเป็นอาวุธ และร่างกายของคุณเป็นคู!"

" For  only  then,   shall  my  fatigued  tombstone,   if  there  is  one,   prostrate  a  thousand  times  in  ecstasy,   and  tears  of  fiery  blood  shall  flow  out  of  my  every  wound" สำหรับเวลาต่อมา ที่ศิลาหน้าหลุมฝังศพของฉัน  ถ้ามีสิ่งหนึ่งนอนคว่ำพันเวลาในความปีติยินดีอย่างเหลือล้น  และน้ำตาและเลือดซึ่งลุกเป็นไฟได้ไหลออกมาจากทุกบาดแผลของฉัน และร่างกายไม่มีชีวิตของฉันได้หายไปจากโลกเสมือนจิตใจเป็นสิ่งที่ชั่วนิรันดร"

 

                อันดับ 2. France - "Le Marseillaise"/"The Song of Marseille"

(ฟังได้ที่ http://la-lune.exteen.com/20070713/entry )

 

ลามาร์แซแยส (La Marseillaise แปลตามตัวว่า เพลงแห่งเมืองมาร์เซย์) เป็นชื่อของเพลงชาติสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย โคลด โจเซฟ รูเชต์ เดอ ลิสล์ (Claude - Joseph  Rouget) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 1792 ที่เมืองสตราสบูร์ก ในแคว้นอัลซาส เดิมเพลงนี้มีชื่อว่า "Chant de guerre de l'Armée du Rhin" (แปลว่า "เพลงมาร์ชกองทัพลุ่มน้ำไรน์") เดอลิสล์ได้อุทิศเพลงนี้ให้แก่นายทหารชาวแคว้นบาวาเรีย (อยู่ในประเทศเยอรมนีในปัจจุบัน) ซึ่งเกิดในประเทศฝรั่งเศสผู้หนึ่ง คือจอมพลนิโคลาส ลัคเนอร์ (Nicolas Luckner) เมื่อกองทหารจากเมืองมาร์เซย์ได้ขับร้องเพลงนี้ขณะเดินแถวทหารเข้ามายังกรุงปารีส ทำให้เพลงนี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป และกลายเป็นเพลงปลุกใจในการร่วมปฏิวัติฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นที่มาของชื่อเพลงลามาร์แซแยสดังปรากฏอยู่ในปัจจุบันด้วย

สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสได้ออกประกาศรับรองให้เพลงลามาร์แซแยสเป็นเพลงชาติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2338 ต่อมาเพลงนี้ได้ถูกงดใช้ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 และพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และมีการนำเพลงอื่นมาใช้เป็นเพลงชาติฝรั่งเศสแทนในระยเวลาดังกล่าวแทน หลังการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2373 เพลงนี้ก็ได้กลับมาใช้เป็นเพลงชาติในระยะสั้นๆ แต่ก็งดใช้อีกครั้งในสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ตราบจนกระทั่งฝรั่งเศสเข้าสู่สมัยสาธารณรัฐที่ 3 เพลงนี้จึงได้รับการรับรองให้เป็นเพลงชาติอย่างถาวรเมื่อ พ.ศ. 2422

                และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ (ปล.ผมไปให้คนในเอ็มฟังเขาบอกว่ามันคล้ายเพลงไทยอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าทำนอง หรือคำแปล)

"Do you hear in the countryside, the roar of these savage soldiers, they come right into our arms, to cut the throats of your sons!" ทหารร้ายใจโจรตะโกนร้อง คำรามก้องในท้องทุ่งได้ยินไหม มันราญรุกบุกบ้านเพื่อเอาชัย ลูกเมียเรามันเชือดได้ให้ตายตาม”

" Amour sacré de la patrie, Conduis, soutiens nos bras vengeurs ! Liberté, liberté chérie,Combats avec les défenseurs ! (bis)Sous nos drapeaux, que la victoireAccoure à tes males accents !Que les ennemis expirantsVoient ton triomphe et notre gloire !!" (ภาษาฝรั่งเศส) “เตรียมศาสตราอาวุธเร็วพี่น้อง รวมพลังเป็นหมู่กองให้เกรงขาม แล้วตบเท้าก้าวสู่แดนสงคราม ให้เลือดชั่วสาดตามรอยไถนา”

Nous entrerons dans la carrière Quand nos aînés j’y seront plus ;Nous y trouverons leur poussière Et la trace de leurs vertus. (bis) Bien moins jaloux de leur survivre Que de partager leur cerceuil, Nous aurons le sublime orgueil De les venger ou de les suivre ! (ภาษาฝรั่งเศส) ความภูมิใจที่ได้รอดปลอดภัยอยู่ หรือจะสู้ได้ร่วมโลงเมื่อเป็นผี ได้แก้แค้น ได้ตายตาม เพื่อนโยธี คือศักดิ์ศรีทะนงไว้ในใจเรา


อันดับ 1. Vietnam - "Tien Quan Ca"/"Army March"

(ฟังได้ที่ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=236388)

 

ส่วนมากของเพลงสดุดีอื่นๆ บนอันดับนี้จะเน้นเรื่องสันติภาพ, ความภูมิใจแห่งชาติ หรืออะไรก็ตามอื่นๆ เลือด และไส้พุง แต่เพลงสดุดีของประเทศเวียดนามนั้นมันต่างกัน เพราะเน้นเรื่องสงครามทั้งหมด

"Tien Quan Ca" แปลเป็นไทยคือ "มาร์ชทหารเวียดนาม" เป็นเพลงชาติของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประพันธ์โดย เหงียน วัน คาวและใช้เป็นเพลงชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามใน พ.ศ. 2488 และนำมาใช้เป็นเพลงชาติของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หลังจากการรวมประเทศในปี พ.ศ. 2519 โดยมีสองท่อน แต่ส่วนใหญ่จะร้องเฉพาะบท

และนี้คือเนื้อร้องคร่าวๆ(เฉพาะท่อนแรก)

“ทหารเวียดนามทั้งหลาย รุกไปข้างหน้า ! ด้วยใจเด็ดเดี่ยวในการพิทักษ์มาตุภูมิ เสียงฝีเท้าที่เร่งเร้าของเราดังก้องทั่วท้องถนนอันยาวไกลและทุรกันดาร จิตวิญญาณของชาตินั้นสถิตในธงแดง อาบเลือดแห่งชัยชนะ เสียงปืนกระหน่ำอันยาวนานสอดประสานไปกับเสียงเพลงเดินทัพ หนทางสู่ความรุ่งเรืองของเราทอดทับบนซากศพของเหล่าศัตรู มาฝ่าฟันความทุกข์ยากนานัปประการ แล้วร่วมสร้างที่มั่นต้านข้าศึกกัน จงสู้เพื่อจุดมุ่งหมายของผองชนอย่างไม่ลดละ เร่งเข้าสู่สมรภูมิกันเถอะ ! รุกไปข้างหน้า ! ทุกคนรุกไปข้างหน้า ! เวียดนามของเรานั้นอยู่ยืนยงชั่วกัปกัลป์”

“ทหารเวียดนามทั้งหลาย รุกไปข้างหน้า! ธงดาวทองโบกสะบัดพลิ้ว นำปวงชนพ้นจาก ความทุกข์ยากลำเค็ญ เรามาร่วมมุมานะต่อสู้เพื่อสร้างชีวิตใหม่ จงลุกขึ้นสู้และทำลายโซ่ตรวนทิ้ง เพราะเราต้องกล้ำกลืนฝืนทนต่อความเคียดแค้นชิงชังมานานพอแล้ว จงเตรียมพร้อมต่อการเสียสละทุกสิ่ง เพื่อชีวิตอันรุ่งโรจน์ในภายหน้า จงสู้เพื่อจุดมุ่งหมายของผองชนอย่างไม่ลดละ เร่งเข้าสู่สมรภูมิกันเถอะ ! รุกไปข้างหน้า ! ทุกคนรุกไปข้างหน้า ! เวียดนามของเรานั้นอยู่ยืนยงชั่วกัปกัลป์”


ที่มา.....http://www.d-looks.com/showblog.php?Bid=168



ARTS-MATH TRIAMUDOM71

tannoiz

  • Guest
ไม่แปลกที่ไม่มีสวิตเซอร์แลนด์ด้วย  เพราะเนื้อเพลงขึ้นต้นก็กล่าวถึง "สีแดง" ซะแล้ว ประมาณว่า  "แดงทั้งแผ่นดิน"...(ฮา)

Offline €arthz ;;BRA#48

  • AFSer Editor
  • *
  • Posts: 616
  • Gender: Male
  • Stephen J. Choochinprakarn
    • My Facebook
  • Exchange In: Brazil
  • Generation: #48 (2009-2010)
ไม่แปลกที่ไม่มีสวิตเซอร์แลนด์ด้วย  เพราะเนื้อเพลงขึ้นต้นก็กล่าวถึง "สีแดง" ซะแล้ว ประมาณว่า  "แดงทั้งแผ่นดิน"...(ฮา)


ยินดีต้อนรับกลับมาท่าน อิตาลี่ เป็นไง

 
T o d o   M u n d o   ล้ ว น พ ล า ด.

T h a i l a n d   D i v i n g   a s s o c i a t i o n.


Brasil #48 pra sempre

สามเกลอหัวขวด + เสกโลโซ Pra sempre

Sometimes in my tear i drown

สนับสนุนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง.

Just want some peace pls.

Offline Felicidad_F CRC#48

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 129
  • Gender: Male
    • Hi5 กรู
  • Exchange In: Costa Rica
  • Generation: #48 (2009-2010)
อ่านะ

Offline КнĩйgУ DФм# ч9

  • AFSer Graduate
  • *
  • Posts: 683
  • Gender: Male
  • quien me quiere ?
    • My Facebook
  • Exchange In: Dominican Republic
  • Generation: #49 (2010-2011)
เพลงชาติ ไมมันโหดงี้อ่ะๆๆๆๆๆๆๆ


น่ากลั๊วววววว น่ากลัววววว
AFS DOMINICAN 10-11 <3

BANK,,BONNE',,BRAVE,,
KHING,,MAY,,OIL,,PEARL
PORN,,SOM,,WAH,, "AFS#49"

Offline ฃื่อปั๊บคับ นอร์เวย์ คับ

  • AFSer Honor Graduate
  • *
  • Posts: 2852
  • Gender: Male
  • Klæbu , Norway
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
...

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด...


เอิ้กๆๆ

ไม่มีนอร์เวย์แหะ ดีจัง

Offline ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

  • AFSer Prom King
  • *
  • Posts: 1016
  • @Södermalm,Stockholm, Sweden
    • My Facebook
  • Exchange In: Sweden
  • Generation: #49 (2010-2011)
เพลงชาติไทยน่ะเพราะอยู่แล้ว ถ้าทุกๆคนช่วยกันร้อง เหมือนอย่างที่ผลัดกันร้องทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งผมว่าเป็นไอเดียที่ค่อนข้างดีทีเดียว

<a href="http://www.youtube.com/v/qaNZGUW6eVU&amp;hl=en&amp;fs=1&amp;color1=0x2b405b&amp;color2=0x6b8ab6" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/qaNZGUW6eVU&amp;hl=en&amp;fs=1&amp;color1=0x2b405b&amp;color2=0x6b8ab6</a>



jckie

  • Guest
ตุรกีน่ากลัวอยู่นะเวลาเค้าร้อง ที่ รร ผมร้องกันเช้าววันจันทร์กับเย็นวันศุกร์แบบทำนองน่ากลัวอยู่แต่ก็เพราะดีๆ

Istikal March

Offline P@t!p@n NOR#49

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 368
  • Gender: Male
  • หัวโบ้ง!!!
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
http://www.youtube.com/watch?v=3hr959AxDI8

เพลงชาติโครเอเชีย

ไม่รู้เค้าแปลมั่วป่าว --"
« Last Edit: October 14, 2009, 10:50:18 PM by P@t!p@n NOR#49 »
Fra Lofoten til Mjøsa
Fra Akersgata til Sognefjord
Fra Nidaros til Operahuset
Kunngjøre ''Thai'' til verden

Offline <<KOunxEL>>Dom#48

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 280
  • Exchange In: Dominican Republic
  • Generation: #48 (2009-2010)
โหด จิง

Offline Bua* PER#49 :)

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 129
  • Gender: Female
  • ♥2pm
555555555555555555555555555555555
บั วววววววววววว!

Let's go to PERU....

><



mail: [email protected]  แอดดั้ยนะ  ฮิๆ ><

Offline Ashley HUN#49

  • AFSer Graduate
  • *
  • Posts: 816
  • Gender: Female
  • Hungarian Horntail ♡
    • My Facebook
    • Blog.
  • Exchange In: Hungary
  • Generation: #49 (2010-2011)
ฮังจ๋า น่ากลัวไปมั้ย?
>.,<

ได้ยินข้อมูลแบบนี้แล้วรู้สึกอยากจะตั้งใจร้องเพลงชาติบ้านเราให้เต็มที่เลย ;]
AFS EU I [YPscNH10 / HUN] ♡ Magyarország!
ดีสิบแปดโอนลี่, สเกตดานซ์, ดูราราร่า! ชิซายะอิสเรียล
เบย์เอย์จงเจริญ, ฮังโอ* ฮังปู ปูโอ ฮังโอปู ฮังฮังฮัง... ฮังการีสี่สิบเก้า.สิบเก้าคน ฯลฯ และ
เอเอฟเอสสุดยอด!