ตอนก่อนสอบข้อเขียนนี่แบบว่าชิวมาก
ไม่น่าจะมีอะไรมาก
พอไปเห็นข้อสอบก็แอบเครียด มันยากกว่าปีที่แล้วนิดนึง
แต่พอออกจากห้องสอบบอกกับเพื่อนเลยว่าปีนี้ไม่ผ่านสอบข้อเขียนแน่เลย
สุดท้าย...ก็ติด (ดีใจๆ ผ่านไป หนึ่งขั้นและ)
พอจะถึงวันสอบสัมภาษณ์...อารมณ์แบบชิวๆอีกเช่นเคย
ไปสอบแบบมีแต่ตัวกับสมองโล่งๆไปเลย (แถมความมั่นใจไปด้วยนิดนึง อิอิ)
ไปเจอเพื่อนๆที่ ร.ร. บอกว่าสอบด้วยกันหมด
ทำกิจกรรมกลุ่มตอนเช้าก็ผ่านไปด้วยดี เฮฮาไปเรื่อยๆ
พอตอนสัมภาษณ์เดี่ยว...เข้าไปแบบนิ่งๆเลย
แต่พอสัมภาษณ์เท่านั้นแหละ...เรารู้สึกถูกกดดันอย่างมาก
เพราะแต่ละคำถามที่ถามเรา เมื่อเอาไปเทียบกับเพื่อนๆแล้ว
คำถามเรานี่แบบว่า จิตวิทยาสุดๆ (แต่จำคำถามไม่ได้แล้วอ่ะ)
แต่คำถามของเรานี่ไม่เหมือนเพื่อนเลยซักคน เพื่อนคนอื่นๆยังคล้ายๆกันบ้าง
แต่คำถามง่ายๆก็พอมีนะ...เช่น เต้นเป็นรึเปล่า เต้นอะไรเป็นบ้าง แล้วชอบเต้นมั้ย ถ้าไปแล้วเค้าให้เราเต้นล่ะ...เราจะเต้นมั้ย??
พอออกมาเราก็ซึมไปเลยดิ เจอแต่ละคำถามนี่น่าเศร้า
แต่กิจกรรมกลุ่มของตอนบ่ายเราก็กลับมาครึกครื้นเช่นเดิม
เราต้องเต็มที่กับชีวิต ฮ่าๆๆๆ
หลังจากวันนั้นเราก็รอๆๆๆๆ และก็รอวันประกาศผลสอบสัมภาษณ์
เราเข้าไม่ได้...แต่เพื่อนมันโทรมาบอกว่าเราติดอเมริกาตัวจริง
ถึงขั้นอึ้งกันไปเลย นึกไปไกลและว่ามันโกหกเราแน่นอนเลย อย่างเรานี่เหรอจะติด
ตอบคำถามก็ตอบแบบงงๆ...
วันรุ่งขึ้นสอบกลางภาคไปด้วยเปิดคอมลุ้นไปด้วย...กว่าจะเปิดได้
สุดท้ายก็กระจ่าง เราติดจริงๆ หลังจากพยายามมาปีกว่าๆ
เพราะปีที่แล้วสอบกับเพื่อน 3 คน ... เพื่อนมันติดกัน 2 คน ส่วนเราไม่ติด
แต่ปีนี้เราติดแล้ว ดีใจมากมาย...ไอ้เพื่อนที่ติดปีที่แล้วอิจฉาเราอีก
เพราะมันบอกว่าเราติดเมกา แต่ปีที่แล้วมันเลือกเมกาแต่มันดันไปติดประเทศอื่นๆ
เราก็ได้แต่หัวเราะ แหะๆไปให้มัน
จนในที่สุดเราก็ได้มาเป็น AFSer#49 ดีใจมากมาย
ขอบคุณทุกๆคนเลยที่เป็นกำลังใจเรื่อยมา