เด็กวิทย์ได้อะไรจากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ??

[@iiy_GER #49]

ถ้าเราเป็นเด็กวิทย์คณิต

แล้วตั้งใจจะเรียนต่อสายวิทย์คณิต ไม่ได้คิดจะเรียนต่อสายภาษา


เพื่อนๆ  พี่ๆคิดว่าประสบการณ์จากเอเอฟเอสจะเอาไปใช้ตรงไหนได้บ้างคะ ?


คือตัดสินใจว่าจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ดีๆกลับมา


แต่เราคิดจะเรียนต่อสายวิทย์คณิต  แล้วมันจะส่งผลให้การเรียนของเราดีขึ้นมั้ย ?





แล้วอยากถามอีกว่า

ถ้าเราเรียนโปรแกรมวิทยคณิต กลับมาต้องซ้ำชั้นใช่มั้ยคะ

[ณัฐคับบ]

เราเรียนวิทย์คณิต
กลับมาจะพาสไม่ซ้ำ
ไม่กลัวเรื่องเรียนไม่ทัน
หนึ่งปีกับเอเอฟเอส
มีค่ามากกว่าตำราเล่มหนาๆพวกนั้นอีก
พอเรากลับมากะจะต่อรัฐศาสตร์IR
[ไม่เกี่ยวกะวิทย์เล้ย - -*]
อนาคตมันไม่แน่นอน
ยังไงก้สู้ต่อไปละกัน
"สู้ต่อไป ไอ้มดแดง ! "
^^"

[Mike]

สำหรับพี่แล้ว เคยคิดจะเรียนต่อตรีทางสายวิทย์เหมือนกันนะครับ แต่มาเปลี่ยนใจตอนกลับมาไทยได้พักนึง แต่เพื่อน ๆ หลายคนของพี่ก็เรียนต่อทางสายวิทยาศาสตร์เยอะนะครับ

สำหรับคนที่จะเตรียมไปอเมริกา หรือประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

ถามว่าเราจะได้อะไร อย่างแรกเลย คือภาษาอังกฤษครับ เราจะอ่านตำราอังกฤษทางวิทยาศาสตร์ แล้วเข้าใจมากกว่าเพื่อน ๆ ที่ไม่เคยไปแลกเปลี่ยน (ยกเว้นน้อง ๆ คนไหนที่เรียนนานาชาติมาก่อน) สามารถประหยัดเวลาเปิด dictionary กว่าเพื่อนคนอื่น ๆ

อย่างที่สอง คือประสบการณ์ครับ เราจะมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ที่แตกต่างจากเพื่อน ๆ มีวุฒิภาวะมากกว่า มีหลักการตัดสินใจที่ดีกว่า

อย่างที่สาม คือ น้อง ๆ จะรู้ว่า การเรียนวิทยาศาสตร์ ในสหรัฐอเมริกา จะเน้นภาคปฏิบัติมากกว่าเมืองไทยมาก ซึ่งเพื่อน ๆ น้อง ๆ พี่บางคน หรือแม้แต่ตัวพี่เองที่เป็นคนค่อนข้างเข้าใจเนื้อหายาก หรืออ่อนวิทย์ จะมีความเข้าใจที่ไปและที่มาของทฤษฎีที่ง่ายขึ้น ซึ่งโรงเรียนในไทยบางโรงเรียนไม่มี

เรียนวิทย์ คณิต กลับมาไม่ต้องซ้ำชั้นก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าตัวเองตามเพื่อนทัน เพราะตามกฏกระทรวงศึกษาธิการ น้อง ๆ คนไหนที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนกับ AFS หรือโครงการอื่น ๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง สามารถข้ามชั้นได้ แต่จะไม่มีเกรดครบทั้ง 6 ภาคเรียน ซึ่งไม่มีปัญหาต่อการเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา เพราะกฏกระทรวงได้ให้สิทธิตรงนี้กับนักเรียนแลกเปลี่ยนครับ เพื่อนพี่บางคนไม่ซ้ำ ก็ยังเอนท์ติดแพทย์ จุฬา ศิริราชได้ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและพยายามของเราเอง

[Hin USA~MO]

^
^
^
ไม่นับเกรดนะดีแล้วคร้าบ 
เพราะเกรดเทอมนี้อย่างห่วยเลย(เทอมที่แล้วได้เกือบ 4)

ก็อย่างที่พี่ไม้ได้พูดอ่าคร้าบ!!!
ไปแล้วก็ได้ประสบการ์ณมากมาย แบบที่คนอื่นก็ไม่เคยมีมาก่อน

[PEARLY.USA48 :D]

ได้ประสบการณ์ชีวิตที่คุ้มค่ากว่าเด็กวิทย์คนอื่นๆ ไงละค่ะ

[น.นุ่นอิตาลีสี่แปด]

อย่ายึดแต่กับผลการเรียนได้ไหม ??


AFS คือไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนะ ไปหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน...ไม่ใช่ไปเป็นนักเรียนต่างชาติ

[(((:fa:)))---[ORD-WI]#48]

พูดตรงๆนะ

กังวลมากอ่า

เกรดเราตอนนี้ รรให้เก็บ  เน่าเยอะมาก  เหอๆ

ไม่เน่าก็พวกอังกฤษนี่ล่ะ เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ตกเคมีอีกแน่เล๊ยยยยยยยย  เซ็งๆๆๆๆๆ


ยังไงก็ต้องสู้ใช่มั้ยคะพี่ต้นไม้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

[พีซี BRA#49]

แล้วถ้าได้ไป ม.6อ่ะ

จากลับมาเรียนไร ยังไง

งง

[tannoiz]

แล้วถ้าได้ไป ม.6อ่ะ

จากลับมาเรียนไร ยังไง

งง

ซ้ำชั้นสิครับน้อง....ถามแปลกๆ

T-T

[Taylor]

ได้พักสมองมั้ง เด็กวิทเหมือนกาน

[anonymous]

เด็กวิทย์อีกคนมารายงานตัว

ที่ได้เนี่ยเราว่ามันได้มากกว่าคนที่อยู่เยอะนะแค่ไปสอบข้อเขียนก้ได้มากกว่าคนอื่นมาก้าวนึงแล้ว

แต่ทุกอย่างแหละไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ทุกอย่างมีค่าตอบแทนในตัวเสมอ

อย่างน้อยๆคือเราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยุ่ด้วยตัวเองหละ

อย่างแรกที่เด้กวิทย์จะได้สมมติว่าเราไปเมกาก็พวกชีวะไรงี้

ยังไงซะที่เราเรียนทุกวันนี้มันก็แปลมาจากtextทั้งนั้น

ถ้าไปก่อนรู้ก่อนเรียนก่อน

ไม่แน่กลับมาจากที่ชีวะไม่ได้เรื่อง...จะกลายเป็นมีเรื่องเยอะนะ

ก็อย่างที่พี่ๆข้างบนบอกกันแหละ

ท้ายที่สุดมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา

[*~ Mint SUI#47 ~*]

สวัสดีค่ะ เด็กวิทย์คณิตอีกคน อิอิ ไปตอนม.5ค่ะ (ทั้งปี เพราะเป็นภาคพื้นทวีปใต้)

พี่ไป สวิตเซอร์แลนด์มาค่ะ ใช้ภาษาเยอรมัน

คือที่สวิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เป็นวิชาพื้นฐานอยู่แล้ว แม้จะเลือกสายศิลป์ของเค้าก็ยังต้องเรียน

ไปอยู่ที่นุ้น โฮสก็ไปดันลงห้องวิทย์คำนวนให้ เลยได้มีโอกาสลงเลขวิศวะด้วย (ภาพ3Dเต็มหัว = =) ถือเป็นผลพลอยได้

มันเป็นวิชาเลือกเพิ่มอะค่ะ เป็นผู้หญิงคนเดียวในห้องที่เลือกลง ทีแรกเลือกลงเพราะความไม่รู้ เห็นมันเขียนว่า AMATH งิ = =

อีกตัวเป็นสังคมเรียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจ (สังคม=ภาษา แล้วเราจะเรียนรู้เรื่องไหม ตอนนั้นคิดแบบนั้นอะนะ)


สิ่งที่ได้กลับมาอะหรอ อืมมมมมม อยู่ที่ตัวน้องเองนะค่ะ ว่าสนใจกับมันมากแค่ไหน

คืออย่างวิชาคำนวนพวกฟิสิกส์ เลข น่าจะทำกันได้บ้างอยู่แล้ว เวลาไปเรียนน่าจะไม่ยากเท่าไร ถ้าสนใจ กล้าถามอาจารย์

เวลาไปเรียนเค้าจะสอนตั้งแต่เริ่มเลย แบบพื้นฐานมากๆ สอนทฤษฏีเริ่มต้น สูตรเริ่มต้น ฝึกให้คิดเอง หาสูตรต่อมา ไม่ได้สักแต่ให้จำ!!

พอเราเรียนก็จะได้หลักพวกนี้มาใช้ คือเราจะคิดเก่งขึ้น วิเคราะห์เก่งขึ้น  สังเกตุหลายๆสิ่งมากขึ้น

ส่วนบทเรียนของเค้าจะเรียนเป็นเรื่องๆจนจบค่ะ ไม่ใช่1เรื่องแต่เอาระดับความยากง่ายไปเรียนเป็นชั้นปีอย่างเมืองไทย

คืออย่างเรียนตรีโกณ ก็จะเรียนเรื่องนี้จนจบในระดับยากๆเลย เพราะฉะนั้นเราก็จะเรียนลึกกว่าที่เมืองไทยค่ะ

ส่วนเวลาสอบแรกๆ เปิดดิก ไม่ก็ให้อาจารย์แปลให้สิค่ะ ถ้าตั้งใจ ไม่หลับในห้องละก็ ทำได้แน่นอน ^^


วิชาชีววิทยา

คือที่สวิต จะเรียนแบบให้เห็นภาพอะ ทำให้เราได้คำศัพท์ในชีวิตประจำวันจากวิชานี้เยอะ

ละก็ที่โรงเรียนเรา เค้ามีห้องสำหรับสัตว์สตาฟอะค่ะ พืชแปลกๆก็มี อย่างกะพิพิธพันธ์แนะ


วิชาเคมี

ส่วนเคมี ห้องแลปเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เอาเป็นว่าสนุก><

ที่นุ้นเท่าที่เห็นเค้ามีอุปกรณ์หลายๆอย่างพร้อมกว่าเรา เวลาเรียนก็ได้ทำแลปเยอะ ความเข้าใจก็มากกว่า


ส่วนเรื่องเกรดนะค่ะ

โรงเรียนพี่เค้ามีกฏว่า ถ้าจะไปต้องเก็บหน่วยกิจค่ะ (โรงเรียนไม่ยอมให้เกรดหาย ว่างั้น = =)

คือเก็บวิชา สังคม ภาษาไทย เป็นหลัก

ส่วนวิชาคณิตศาสตร์  เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ จะเอาเกรดมาเทียบก็ได้หรือเก็บหน่วยกิจก็ได้ เนื้อหาที่ตรงกันก็ใส่เป็นคะแนนได้เลย

แต่ถ้าไปAFSกลับมา สามารถใช้เกรด4เทอมเอนได้นะค่ะ เป็นข้อยกเว้นของกระทรวงศึกษาธิการ



ถึงแม้การที่ไปอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสที่เมืองไทยในปีที่เราไม่อยู่หลายๆอย่าง

แต่อยากบอกว่า สิ่งที่เสียไปกับประสบการณ์ที่ได้กลับมา เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ มากกว่าสิ่งที่อยู่ในห้องเรียน การเรียน หรือว่าเกรด

การเรียนไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ค้นหาตัวเองให้เจอว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไร อยากทำอะไร มีความสุขกับตัวเองมากๆ

การที่เราไปก็เหมือนเราได้ใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองจริงๆ มันจะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น

วัฒนธรรมที่แตกต่างก็จะทำให้เราได้เรียนรู้ มองโลกในหลายๆแง่ หลายๆด้าน แล้วเราจะรักเมืองไทยมากขึ้น จริงๆนะ ><

สุดท้าย....

เมื่อมีโอกาสแล้ว ก็คว้ามันไว้เถอะ ไม่ว่าจะได้ไปประเทศไหนก็จะได้ประสบการณ์ในอีกมุมที่ต่างกัน สู้ๆนะค่ะ

[Bung[USA]#48]

สำหรับเรานะ
เราคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องของเด็กวิทย์หรือเด็กภาษาอะ
คือจะเรียนฝั่นไหน เราว่า afs ก็ให้ประโยชน์เหมือนๆกัน
และโดยส่วนตัวคิดว่าไม่เสียเวลา
แต่เหมือนกับการให้เวลาตัวเองมากกว่า
เวลาที่จะถามตัวเองว่า ตกลงแล้วตัวเองชอบอะไรกันแน่
เหมือนกะพวกฝรั่งที่มันมี gap year นั่นแหละ

[MooK-BRA#46]

อืืมมม อ่านแล้วงงๆ น้องถามถึงประสบการณ์ แต่ถามถึงผลการเรียนด้วย?
พี่ว่ามันไม่เกี่ยวกันนะคะ
ประสบการณ์ไปแลกเปลี่ยนหาไม่ได้จากในห้องเรียนเน้อ
พี่อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่าไปแลกเปลี่ยนแล้วผลการเรียนจะไม่แย่ลง ยิ่ง 'ดีขึ้น' นี่ไม่ต้องพูดถึง มันแล้วแต่คนค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็ 'ได้ดี'(ซึ่งไม่ได้แปลว่าเรียนดี) กันทั้งนั้น พูดงี้พอเข้าใจมั้ยคะ?

อยากให้เข้าใจว่า ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ไม่เหมือนกับ ไปเรียนเมืองนอก นะคะ

[โอเปิ้ล Ger(NH)#48]

ได้รู้ว่าE=mcสแควร์

เอ่อ ไม่เกี่ยว
มันก้อได้เหมือนกันอ่ะ
ไม่เกี่ยวว่าวิทย์หรือศิลป์

เหมือนน้องถามว่า
คนขาวไปแล้วได้อะไรมากกว่าคนดำ
เอ่อ งงป่ะ
เราก้องง