ไม่รุ้ว่าตัวเองมาตั้งกระทู้ช้าไปรึเปล่า แต่เพิ่งจะว่างมาเข้าเว็บนี่แหละ = =
เข้าประเด็นเลยแล้วกัน อย่างที่น้องๆหลายคนเคยได้ยินรุ่นพี่บางคนบอกมาแล้วว่า โฮสบางคนก้อดี บางคนก็ไม่ดี
ในกระทู้นี้พี่ขอพูดในทั้งสองแง่ การปรับตัว และทัศนคติที่น้องควรจะมีไว้ติดตัว...
พี่หลายคนบอกว่า...ไม่อยากให้น้องๆคาดหวังว่าจะได้โฮสที่ดีมากเกินไป แต่ในความเป็นจริง เราก็แอบหวังลึกๆว่า จะได้โฮสดีๆ เพื่อนดีๆ
มันเป็นพื้นฐานของมนุษย์ที่เราคาดหวังอะไรดีๆให้เกิดในชีวิต
ส่ิงหนึ่งที่พึงคิดและพึงมีคือ การปรับตัว และการมองโลกตามความเป็นจริง
ตอนก่อนพี่มา พี่ได้พูดคุยกับรุ่นพี่หลายๆคน ซึ่งเค้าได้โฮสกันดีมากๆ จนพี่ก็แอบหวังว่าโฮสพี่ก้อคงจะดีบ้าง
แต่พี่ก้อได้คุยกับรุ่นพี่อีกหลายคนที่ได้โฮสที่ค่อนข้างไม่ดี
จนพี่ก็คิดว่า ตัวพี่เองอาจได้โฮสแบบนั้นซะเอง เกิดความกลัวไปต่างๆนาๆ
ตอนพี่มาถึงใหม่ๆ โฮสพี่ก็ดีมากๆ ครอบครัวพี่มี สามคน มี mom dad และ host sister
เป็นครอบครัวเล็กๆ มีลูกคนเดียว อายุเท่าพี่นี่แหละ
ตอนพี่มาใหม่ๆ ทุกอย่างลงตัวดีมากๆ ครั้งเดือนแรกทุกอย่างก็ยังดีเลิศ ประเสริฐศรี
พอมาพักหลังๆ host พี่เค้าทะเลาะกันในบ้านบ่อยมาก แล้ว host sister พี่ก้อมาระบายที่พี่ กลายเป็นว่าเราผิด
(แต่พี่ไม่ได้อยู่ในหัวข้อที่เค้าทะเลาะกันนะ ประมานว่าปัญหาในบ้าน)
ตอนแรกพี่ก็เครียด เพราะว่า ที่รร ก้อมีปัญหา ไม่มีเพื่อน เรียนไม่รุ้เรื่อง ปรับตัวเรื่องภาษาก้อยังไม่ได้
บางคนบอกว่า ปัญหาที่พี่เจอมันเล็กน้อย บางคนเจอโฮสแย่กว่านี้อีก
แต่สำหรับน้องบางคนที่เคยเป็นคุณหนู หรือไม่เคยเจออะไรแย่ๆมาก่อนจะรุ้สึกว่านี่มันแย่มาก
พี่ไม่ใช่คุณหนู พี่เจอเรื่องแย่ๆมาก็ไม่ได้น้อยๆ
เวลาเราอยู่ที่บ้าน พี่แข้มแข็ง และไม่แทบไม่เคยร้องไห้ แต่พอมาอยู่อย่างนี้แล้ว เหมือนเราอยู่ตัวคนเดียว
เวลาปัญหามันมาแล้ว ถ้าไม่สู้กับมัน เราก็แพ้...แพ้แล้วไงละ? แพ้แล้วกลับบ้านน่ะหรอ ?
เพื่อนพี่ที่อยู่อิตาลีกลับบ้านไปตั้งแต่สองอาทิตย์แรกเพราะ homesick และปรับตัวไม่ได้
น้องลองคิดดู ขนาดเค้าเป็นชาวยุโรปที่วัฒนธรรมค่อนข้างคล้ายกัน ยังทนไม่ค่อยได้ แล้วเราละ ต่างกันลิบลับ
ถ้าไม่ปรับตัว ก็เน่าสถานเดียว ...
ปรับตัว?
พี่ก็เครียดเรื่อง host ทะเลาะกันบ่อยมาก และตะโกนใส่กันในรถประจำ ซึ่งเราก็นั่งด้วย เลยต้องทำตัวให้ลีบติดขอบหน้าต่างรถ
ที่บอกว่าเครียดๆ พี่เลยไปคุยกะ liaison เค้าบอกประโยคที่พี่ยังจำได้จนทุกวันนี้ และก็ยังนำมาใช้อยู่ทุกวัน
เค้าถามพี่ว่า ตอนก่อนมา เคยทะเลาะกับพ่อแม่ไม๊? พี่ตอบว่าเคย
เค้าถามว่า ตอนก่อนมาในช่วงสองสามเดือน เคยมีบางช่วงที่ไม่ get along with ครอบครัวที่เมืองไทยไม๊? พี่ก้อตอบว่าเคย
เค้าก็บอกว่า มันเป็นธรรมดา เพราะเรามาเป้นส่วนหนึ่งของครอบครัวเค้า ใช้ชีวิตร่วมกัน
เรามาแค่ปีเดียวก็จริง แต่เค้าก็เห็นเราเป็นสมาชิกคนนึง เค้าย่อมแคร์ ส่วนอะไรที่เค้าไม่ชอบแล้วบอกเราว่าอย่าทำอีก
ประเด็นแรกคือเค้าห่วงเรา อีกประเด็นคือ เค้าไม่ชอบ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้าไม่ยอมรับ (จะอะไรก็ช่าง)
จุดนี้..น้องๆลองคิดดูว่า ถ้าเราอยุ่บ้าน พ่อกับแม่ไม่ชอบเราอย่างโน่้นอย่างนี้ เค้าก็บอกเราอย่างนี้เหมือนกัน
จนบางทีเราก็ทะเลาะกับพวกท่านเป็นวรรค เป็นเวรไปเหมือนกัน หรือไม่จริง?
ที่พูดมาทั้งหมดนี้อย่างเพิ่งมองว่าเราจะได้โฮสไม่ดี อย่างเดียว
น้องบางคนอย่างโชคดี ได้โฮสดีมาก ไม่ต้องทำอะไร แถมเข้ากันดีตลอด นั่นก็ถือว่าดีมากๆ พี่ก็ดีใจด้วย
แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าน้องจะได้โฮสดีแค่ไหน สักวันต้องมีไม่เข้าใจกันบ้าง แล้วแต่ว่ามากน้อยแ่ค่ไหน ตามระดับ
มีปัญหากับ host sibling ไม่ใช่เรื่องแปลก...น้องเป็นสมาชิกใหม่ เค้าอาจมองว่ามาแย่งความรัก
บางคนอยู่มาปีนึงแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเรามาอยู่ในฐานะแขก ก็ยังไม่ชอบขี้หน้าเราอยู่ดี
บางคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยก้อมี แล้วแต่เคส ...
host sister ของพี่ก็เข้ากันได้ดี มีบางครั้งที่ทะเลาะกัน เข้าใจผิดกัน เค้าคิดว่าพ่อแม่เค้ารักเรามากกว่า เพราะเค้าก้อเคยเป็ฯลุกคนเดียวมาก่อน
พี่เองก็เปนลูกคนเดียว เลยเข้าใจดีว่าความรุ้สึกของคนที่เคยเป็นหนึ่งมาก่อน แล้วมีอีกคนมาให้พ่อแม่แคร์เพิ่มมันเป็นยังไง
เวลาน้องมองดู host ตัวเองแล้วบอกว่า ไม่ดีๆ อยากให้น้องลองไปถามเพื่อนน้องๆว่า host เค้าเป็นไงกันบ้าง
ไม่ใช่ว่าทุกคนได้ host ดีๆหมดหรอก บางคนแย่กว่าเรา บางคนดีกว่าเรา แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าน้องได้ host แล้วเค้าไม่ดีอย่างที่น้องคิด
แต่เค้าก็ดีที่สุดเท่าทีดีได้ น้องจะเปลี่ยน host เพื่อความสะดวกสบายที่สุดของตัวเอง แสดงว่าน้องมาเป็นนักเรียกแปลี่ยนอย่างผิดจุดประสงค์แล้วล่ะ
บ่นมาก็เยอะ ไร้สาระบางเป็นบางที แต่ทั้งหมดนี้อยากให้น้องๆสู้
ตอนพี่มาเดือนแรก สองเดือนแรก ...พี่เข้าใจเลยว่า ชีวิตมันลำบากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ ฟังเค้าลำบากมากก็มาก เจอเองแล้วมันยิ่งกว่าที่เราคิด
สิ่งที่พี่ได้เรียนรู้จากการมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคือ พี่รู้ว่าครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน
ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักครอบครัวพี่ แต่เวลาน้องอยู่กับพวกเขา น้องทะเลาะกับพวกเขา น้องเบื่อพวกเขา
แต่เมื่อไรที่น้องไม่มีพวกเขาให้ทะเลาะด้วย มันเลวร้ายมากขอบอก
ไม่มีเสียงพ่อโทรมาถามว่า "กินข้าวรึยัง" ไม่มีเสียงแม่่บ่น "ไปอาบน้ำ ทำการบ้าน อ่านหนังสือซะที มัวแต่เล่นคอม"
ไม่มีเสียงไอ้้น้องชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ตัวป่วนมาคอยกวน "พี่ตาลคับจะเล่นเกม" ไม่มีเสียงเพื่อนโทรมาทั้งวัน แล้วบอกว่า "กุยืมตังค์หน่อย"
บางทีเราเบื่อพวกนี้ อยากไปให้พ้นๆการศึกษาไทย อยากไปเจอสิ่งใหม่ๆ แล้วจุดประสงค์ของการมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนละ??
ไม่ใช่เพื่อ..เอาวัฒนธรรมเราเผยแพร่ให้เขาหรือ? หรือว่า มารับแต่วัฒนธรรมของเขากันแน่?? คิดดูให้ดี
อย่าคิดว่าตัวเองจะโชคดี อย่าคิดว่าตัวเองจะโชคร้าย อย่าคิดว่าตัวเองแน่ หรืออย่าดูถูกตัวเองว่าทำไม่ได้
คติของพี่คือ "ไม่ลองทำ แล้วเมื่อไรจะเป็น" พี่อยากรู้ว่า หนึ่งปีถ้าพี่ไม่กลับก่อน พี่จะเป็นยังไง มันต้องลองดูก่อน
ท้อ..เหนื่อย ...แต่ไม่หยุดเดิน ไม่หันหลังกลับ ปัญหามันมาทำให้เรากลัวเฉยๆ แต่เราเท่านั้นแหละที่จะท้ามัน
มันมา เราสู้...แม่พี่บอกเสมอว่า "หลบไม่เข้าท่า ก็ต้องกล้าอย่างมั่นใจ"
เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนที่กำลังจะมาเป็นนักเรียนแลกเปล่ี่ยนวัฒนธรรม
ไม่ใช่ นักเรียนมารับวัฒนธรรมอย่างเดียว..
น้องคนไหนอยากคุยเรื่องปัญหา การปรับตัวส่งเมลมาคุยกับพี่ได้เสมอ เพราะพี่ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดเท่าไร
(แชร์ไปเว้บของเพื่อนมากกว่า) เหอะๆ
[email protected] feel free to ask any question and to contact me
ปล.พี่เป็น AFS #47 Clevaland East side,, Ohio