สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ AFS-YES#3
วันนี้ฟางมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับค่ายที่ Washington DC ก่อนกลับน่ะค่ะ
สำหรับปีที่แล้วน่ะค่ะกำหนดการก็คือ นักเรียนที่โฮสอยู่ใกล้กับรัฐ DC แล้วสามารถขับรถกลับมาได้ไม่เกิน 2 ชม. ครอบครัวอุปถัมภ์ก็จะมาส่งที่โรงแรมด้วยตัวเองค่ะ แต่สำหรับนักเรียนที่อยู่ไกลก็จะบินกลับมาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับที่ๆเพื่อนๆอยุ่กันน่ะค่ะ ใครไปจาก DC ยังไง ตอนนั้นก็กลับมาแบบนั้นหล่ะค่ะ สำหรับฟางแล้วตอนนั้น ฟางอยู่ รัฐ Pennsylvania ซึ่งใช้เวลา มา DC ประมาน 1 ชม. 45 นาทีเอง ครอบครัวฟางเลยมาส่งเองที่ DC ณ Hilton Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูมาก แต่ตอนนั้นก็รู้สึก 2 อารมณ์ 2 ความรู้สึก หนึ่งคือดีใจที้ได้เจอเพื่อนคนไทยที่ร่วมเดินทางกันมาและไม่ได้เจอกัน 11 เดือนหรือเกือบๆ 1 ปี แต่อีกความรู้สึกหนึ่งนั่นคือ ครอบครัวอุปถัมภ์เรา คนที่เรเรียกเขาว่า พ่อ แม่ น้องสาว น้องชาย เรากอดลาเขา พร้อมน้ำตา รู้สึกดีและก็ขอบคุณเขามากๆ ที่สามารถหำให้เราประสบผลความสำเร็จในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เขามีบุญคุณกับเรามากทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา เอาค่ะวกกลับมาที่ภารกิจที่เราต้องทำต่อไปกันน่ะค่ะ คือ ขนกระเป๋ากลับห้องที่เรามีชื่อไว้ ก็นอนห้องละ 2 คน กับเพื่อนคนไทยนี่แหละ ไม่เหมือนตอนมา ตอนมา นอนกับเพื่อนต่างชาติ 4 คน ที่ หอประชุม H4 ซึ่งหวังว่าชาว AFS-YES คงจำได้ดีน่ะค่ะตอน (First Arrived) สรุปคืนนั้นก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเจอเพื่อนๆที่เคยเจอกันค่ายแรก ซึ่งก็สังสรรค์เฮฮา พูดคุยกันตามประสาคนไม่ได้เจอกันมาเป็นปี รวมทั้งได้เห็นว่าทุกคนเปลี่ยนไปมากๆผู้หญิงบางคนก็เป็นสาวขึ้น เปรี้ยวขึ้น ผู้ชายก็แบบผมยาวกัน สนุกสนานมากๆ แต่แน่นอนคือทุกคนดูเหมือนมีความมั่นใจและมีความกล้า และความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วนภาษาแน่หล่ะค่ะ เป็นกำไรส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนครั้งนี้ และคืนนั้นเราก็จะได้เจอกับรุ่นพี่ Returnee ซึ่งเป็นตัวแทนนักเรียนเก่าจากประเทศไทยมารับเราถึง DC กันเลยค่ะ ตอนเมื่อปีที่แล้วเป็น พี่นุดี มนูญดาหวี ซึ่งพี่เขาก็ใจดีแต่แอบดุนิดนึง เพื่อความเป็นระเบียบของพวกเราทุกคนไงหล่ะค่ะ สำหรับน้องๆปีนี้ พี่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร รู้สึกว่าจะเป็น พี่นาอิม เริงสมุทร จาก จ.ภูเก็ต หรือ พี่ไพเราะ ก๊กใหญ่ จาก จ.ตรัง ค่ะ รับประกันได้พี่ๆเขาเป็นกันเองสุดๆ เหมือนเพื่อนเลย ค่ะสำหรับคืนแรกก็ไม่มีอะไรมากน่ะค่ะส่วนมากต้องการพักผ่อนกันมากกว่า มาดูวันที่ 2 กันดีกว่าค่ะ สำหรับวันที่ 1วันแรกเลย วันนี้ทุกคนต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ผู้หญิงควรจะใส่กระโปรงหรือกางเกงสุภาพ ส่วนผู้ชายกางเกงสุภาพ ห้ามยีนส์ เด็ดขาด พร้อมกับรองเท้าสุภาพหุ้มส้น ห้ามลากอีแตะมาเด็ดขาดน่ะค่ะ เพราะวันนี้ เหล่านักเรียนแลกเปลี่ยนจะเดินทางไปเยี่ยมสถานทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ประจำกรุง Washngton DC กันค่ะ ก็หวังว่าคงจะจำกันได้เพราะเคยมากันแล้ว ก็มีการเล่าพูดคุยถึงประสบการณ์ที่ได้ให้คณะผู้ใหญ่ฟัง มีผู้คัดเลือกนักเรียนทุน กพ. กันด้วย พวกเรารีบเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวกันใหญ่ และที่สำคัญเขาเลี้ยงอาหารไทยให้พวกเราด้วย โอ้โห แหล่มไปเลย !!! คิดดูน่ะค่ะนานแค่ไหนที่ไม่ได้กินอาหารไทยรสไทยแท้ๆแบบนี้? แต่ละคนฟางบอกได้เลยว่าทานกันคนละไม่ต่ำกว่า 2 จานชัวร์ๆ เห็นมาแล้ว หรือจะมีใครปฎิเสธว่าไม่จริงจ๊ะชาว YESTA#2 (เออ ลืมบอกวันนั้นมีสะตอด้วย ฮ่า ฮ่า) ระหว่างทานข้าวเราก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างสนุกสนานขำขัน เรื่องเด็ดๆ เช่นเด็กเอมริกันจูบกันระหว่างล๊อคเกอร์ ที่ Hall Way ระหว่างเปลี่ยนคาบ , เพื่อนเราอายุ 17 ปี ท้องก็ยังมาเรียนหนังสือได้ , เรื่องตลกๆเช่นเธอ Pumpkin ภาษาไทยอ่ะ เขาเรียกว่าอะไรหรอ เราก็บอกแบบลืมตัวบอก อ่อ ฟัก-ทอง !!! ฮ่า ฮ่า (get น่ะค่ะ) และอีกเรื่องราวต่างๆมากมายทั้งเป็นสาระและไม่เป็นสาระ รวมทั้งเขาก็ถามว่าแล้วเราได้มีโอกาสเป็นนักเรียนทุนเต็มจำนวนแบบนี้คิดจะตอบแทนสังคมไทยเราอย่างไร เพราะทุนเรามาจากรัฐบาล รัฐบาลเอาเงินมากจากไหน ? ตอบ ภาษีประชาชน เราเป็นหนี้บุญคุณเขาน่ะ และเราจะตอบเทนเขาอย่างไร ไปคิดกันน่ะจ้ะ (Community Service Project) แล้วสุดท้ายก็อย่าลืมคัดเลือกตัวแทนกล่าวขอบคุณคณะจากสถานฑูตด้วยน่ะค่ะ
จากนั้นตอนบ่ายก็ต่อกันด้วยเดินทางไปพบตัวแทนที่ Congress ซึ่งตอนกลับเขาจะแจ้งให้เราทราบน่ะค่ะว่าเราต้องทำอย่างไรบ้างก่อนจะพบเขา อุ้ย !! ลืมบอกไปอันนี้เขาจะแจ้งให้เราทำก่อน ประมาณ 4 สัปดาห์ก่อนเรากลับน่ะค่ะ ต้องมีการเตรียมตัว คือ
1.ตรวจสอบว่าเราอยู่ Area อะไร Congress ประจำ Area เราคือใคร ชื่ออะไร
2.ติดต่อนัดหมายวัน เวลา ตามที่ AFS-YES เขาได้แจ้งเรา (ซึ่งอันนี้เราจะต้องทำให้ดีน่ะค่ะ อย่างนิ่งเฉยไป เขาบังคับค่ะ แล้วเขาจะส่งจดหมายแจ้งเราเอง รอรับไว้ดีๆแล้วอย่าตกใจน่ะจ๊ะ)
เอาหล่ะค่ะพอเรานัดกันเรียบร้อยแล้ววันจริงก็ไปเข้าพบตามที่นัดหมายเลยค่ะ โดยอย่าลืมจดชื่อคนที่เราจะพบไว้น่ะค่ะ เพื่อที่จะเข้าไปขอบคุณเขาและเล่าว่าเราได้ประสบการณ์ชีวิตจากการเป็นนักเรียนที่คุ้มค่าแค่ไหน คืออยากจะบอกว่า Congress ที่จะไปมันใหญ่และหรูมาก ต้องอ่านป้าย อ่านชั้น อ่านห้องดีๆ แต่ถ้าบางคนอยู่ Area เดียวกันก็โชคดีไป เข้ากันไปหลายคน ช่วยๆพูดกัน แต่ฟางดิ โดนคนเดียว เข้าไปพูดกับใครแปลกหน้าใครก็ไม่รู้คนเดียว เอ๋อๆ ดีแต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ เราต้องเข้าไปรายงานตัวขอบคุณเขาน่ะค่ะ เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่จัดการให้ทุนกับเราค่ะ สู้ๆค่ะอยู่อเมริกามาตั้งปีนึงแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้สบายๆอยู่แล้วค่ะ พอเสร็จแล้วใครเวลาเหลือก็เดินชมวิวทิวทัศน์ ใน DC +shopping ได้เลยจ้ะ
วันที่ 3 วันเกือบสุดท้าย ที่จะได้อยู่ในอเมริกาแล้วน่ะทุกคน ฟังแล้วหวิวๆเลยหล่ะวันนี้ไม่ต้องออกไปไหนเลย สบายๆ แต่ไม่สบาย ส่ะทีเดียวเนื่องจากเป็นการประชุมกลุ่มของแต่ละประเทศ โดยแต่ล่ะประเทศคนมันจำนวนเยอะใช่ไหมค่ะ ฉะนั้นเค้าก็จะหารกันแล้วแต่ว่าจะหารเท่าไหร่กี่กลุ่ม ตอนนั้นพี่ไทยเราไป มี 15 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คนที่อยู่ภาคกลางขึ้นไป กับภาคใต้ลงมา (อันนี้เขาแบ่งให้ค่ะมีรายชื่อมาอยู่แล้ว) ส่วนมากจะแบ่งตามพื้นที่ภูมิลำเนาเพื่อที่จะได้สะดวกแก่การดำเนินการไง ซึ่งวันนั้นเราต้องคิดร่าง Community Service Project ที่บอกไปก่อนหน้านี้ไงค่ะ (นี่แหละหนา เขาบอกว่าของฟรีไม่มีในโลก แต่ฟางเชื่อว่าทุกคนก็ยินดีใช่มั้ย ค๊า ?) คือวันนั้นประชุมกันปวดหัววุ่นวายนิดนึง คิดกันไม่ออกว่าจะทำไรดี ทำโน่นก็ดี ทำนี่ก็ดี และที่สำคัญเราต้องเขียนรายงานเป็นโครงการแล้วนำเสนอเขาด้วยค่ะ โดยแต่ล่ะกลุ่มแต่ล่ะประเทศก็จะมีครูคุมประจำกลุ่ม กลุ่มล่ะ 1 คน
และแล้วตอนเย็นเขาก็บอกให้ นักเรียนทุกประทศร่วมคิดการแสดงพิเศษขึ้น เพื่อโชว์ในคืนสุดท้ายค่ะ อ่ะ งานเข้าแล้ว อันนี้ยังไงก็รู้กันล่วงหน้าแล้วอย่าลืมทำให้ดีที่สุดน่ะจ้ะ อย่าทำให้เสียชื่อประเทศไทย เพราะ YESTA#1,2 ทำไว้ดีมาก อย่าที่รุ่นพี่รุ่นแรกเล่าหั้ยฟังว่าพี่เค้าโชว์มวย ได้ข่าวว่าตีลังกา กันมันส์ มีเจ็บตัวจริงด้วย และเป็นที่ชื่นชอบให้กับพวกเขาค่ะ ส่วนรุ่น 2 ก็ทำเป็น รำไทยเปิดเล็กน้อย จากนั้นต่อด้วยแฟชั่นโชว์เพื่ออธิบายชุดจากแต่ละภาค ซึ่งโชคดีมากพวกเรามีชุดกันทุกภาคเลย แล้วก็ตามด้วยต่อตัวแล้ว มี 2 คนยืนข้างบนแล้วปล่อยธงชาติอเมริกา กับธงชาติไทยออกมาพร้อมกัน พอจบการแสดงน่ะค่ะ ทุกคนยืนขึ้นแล้วปรบมือให้พวกเราหมดเลยค่ะ เป็นอะไรที่แบบว่าความรู้สึกเรายืนบนเวทีแล้วมีคนยืนปรบมือให้เกียรติเรา เป็นที่ชื่นชมเราก็ภูมิใจมากๆค่ะ ฉะนั้นแล้วฝากน้องรุ่นต่อๆไปน่ะค่ะว่า ต้องทำให้ดียิ่งขึ้นต่อไปน่ะค่ะ แล้วเขาก็จะเห็นศักยภาพของเด็กไทยจะได้ให้จำนวนทุนเราเพิ่มขึ้นอีก จาก 15 15 20 เป็นสักร้อยเลยค่ะ ดีมั้ย? เออ ลืมเล่าก่อนแสดงเขาให้เราร้องเพลงชาติของแต่ละประเทศด้วย ฮาดี ไม่ได้ร้องนานเกือบจะลืม แต่ไม่ลืมหรอกค่ะ เราเป็นคนไทย เลือดไทยมันแรง แร๊งง !!! จากนั้นก็ต่อด้วยเปิดเพลง Dance กันรั่วสุดๆ ถึงเที่ยงคืน โอ้โห...แต่ล่ะคนสงสัยได้รีบความแรงจากเมกันเต็มที่ เต้นกันสุดเหวี่ยง อิ..อิ
รุ่งเช้าวันใหม่ 4 กรกฎาคม 2551 เป็นที่ทราบกันดีใช่ไหมค่ะว่าเป็นวันอะไร ? วันพระหรอ ? ไม่ใช่ค่ะมันคือ Independent Day ของอเมริกาไงค่ะ!!! ก็ตื่นแต่เช้า Say Bye Bye America กลับไทยก่อนจ้ะ ไว้มีโอกาสจะมากันใหม่อีก อามีนนนน.... I<3 USA จากนั้นก็เดินทางกลับสู่ประเทศไทยด้วยความสวัสดิภาพ
ฝากให้น้องๆ เพื่อนๆ เอาไปอ่านด้วยน่ะค่ะยาวหน่อย แต่ก็อยากให้อ่านกันก่อน เห็น Salee บอกว่ามีคนไม่เชื่อว่าต้องมี Performance คืนสุดท้าย
สุดท้ายขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ
AFS more than family!!