Poll

คุณคิดว่าบอร์ดนี้น้ำเน่าแค่ไหน?

โคตร อ่าาา เน่าเกินบำบัด
8 (44.4%)
ไม่นะ เฉยๆอ่า พอดีสวย มีคนมาหวานด้วยมากกว่านี้อีก
2 (11.1%)
โรแมนติกดี ไม่ขาดไม่เกิน ลงตัว
6 (33.3%)
ไม่รู้ อย่าถาม ไม่เคยมีฟามรัก
2 (11.1%)
ไม่รู้ดิ ยังไม่ได้อ่านเลย
0 (0%)

Total Members Voted: 18

Voting closed: May 03, 2010, 04:37:52 AM

Author Topic: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10  (Read 24935 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
« Reply #120 on: April 29, 2010, 05:43:03 PM »
โหยยย ไม่อยากจาบอก ทำจักยานโฮสพัง
ไปแล้วหนึ่งคัน ปันๆอยุ่โซ่ขาดคาเท้าเลย งง
แมร่งขาดสะกลางถนนด้วยนะ เกือบตาย


ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?

Offline ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 181
  • Gender: Female
  • ~★ИøЯWαЧ ŁiSм ★~
    • My Facebook
    • hi5
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
« Reply #121 on: April 29, 2010, 06:09:22 PM »
โหยยย พูดซะน่ากัว - -*

5555+
~* ☆★☆I LOVE NORWAY :: MIEW+ AFS NORWAY#49 ☆★☆*~


Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
« Reply #122 on: April 30, 2010, 12:01:37 AM »
ก็มันน่ากลัวเจงๆนะเว้ยหมิว โคตรตกใจอ่า
กลับมาเล่าให้โฮสฟัง โฮสขำไม่ออก
โฮสบอกจาซื้อจักรยานให้ใหม่เลย งง มาก
เราบอกไม่เอา เอาไปซ่อมก็พอแล้ว


ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?

Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
« Reply #123 on: April 30, 2010, 02:59:07 AM »
ก่อนที่ทุกคนจะหาว่าผม หม้อไปวันๆก็เลยอยากลองเสนอ
อีกมุมนึงของชีวิตที่นี้บ้าง ว่าผมก็มีอย่างอื่นทำนะนอกจาก
ตามเอาใจA อ่า ลองอ่านกันดูครับประสบการณ์ล้วนๆ

http://www.afser.in.th/forum/index.php?topic=5264.จ


ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?

Offline MetalFreak

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 150
  • Gender: Male
    • My Facebook
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #47 (2008-2009)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 3 (the begining) page 7 since 25/04/10
« Reply #124 on: April 30, 2010, 04:28:01 PM »
โหยยย ไม่อยากจาบอก ทำจักยานโฮสพัง
ไปแล้วหนึ่งคัน ปันๆอยุ่โซ่ขาดคาเท้าเลย งง
แมร่งขาดสะกลางถนนด้วยนะ เกือบตาย
เพื่อนพี่จอดจักรยานแล้วล๊อกไว้ กลับมาล้อหน้าหาย= =

P'แบต นะครับ
AFS Germany[SH]#47
ศิษย์มวยไชยา"บ้านครูแปรง"รุ่นที่๕ จักรศิลป์ & มีดสั้นรุ่น ๖
แอดมาคุยได้คับ>> [email protected]
http://www.youtube.com/sittha469

Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #125 on: May 01, 2010, 05:34:58 AM »
Part 4(When the rain comes)

เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ถือเปนเรื่องที่ผิดความคาดหมายของผม
มันเกิดขึ้นในวันนี้ นอกแผนการทั้งหมด และผมแทบจะรับมันไม่ได้

ในวันนี้มันเปนวันสดใสๆอีกวันหนึ่ง ผมดูพยากรอากาศไว้แล้วตั้งแต่
วันพุธ ผมคิดๆไว้ในใจว่าอยากจะพา A ไปห้องสมุดอีกรอบ เพราะ
เมื่ออาทิตย์ก่อนเราไปห้องสมุดด้วยกันมาแล้วรอบนึงซึ่งผมกะจามา
ลงเล่าเรื่อง พร้อมๆกับแผนการใหญ่ที่ผมวางไว้ไปเลย แต่ก็มาเจอกับ
เรื่องในวันนี้ทุกอย่างคงต้องหยุดไว้แค่นี้ก่อน เช้ามาผมไปโรงเรียนด้วยอารม
สดใสๆวันนี้เปนวันที่อากาศดีมาก ผมใส้แค่เสื้อยิดตัวเดียวไปเรียน ลมเย็นๆ
แดด อุ่นๆ และที่สำคัญต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสี ดอกไม้เริ่มออกดอกให้เห็นแล้ว
มันเปนวันที่สวยงามมากที่สุดวันหนึ่งในเยอรมันเลยหล่ะ ผมว่ามันสวย
พอๆกับดอกทานตะวันบาน ที่สระบุรี หรือ งานพืชสวนโลกเมื่อหลายปี
ก่อน เลยหล่ะมั้ง ทุกที่มีแต่สีเขียวผมขี่จักรยานไปเรียนตั้งแต่เจ็ดโมง
แวะดูดอกไม้ต้นไม้ไปเรื่อย ไปถึงโรงเรียนผมไปวางกระเป๋าในห้อง
นั่งพัก วันนี้A มาเรียนเช้ามากปรกติผมจะเจอเธอก็ในคลาสเลยไม่เคย
มาเจอในห้องพัก ผมเลยนั่งคุยกับเธอ และเพราะอาทิตย์นี้เดก เกรด
สิบสาม จะต้องเขียนอาบิทัวกันอีก เราเลยมีวันหยุดยาว จันทร์อังคาร
ไปด้วย เธอบอกว่าอากาศวันนี้ดีนะ ผมก็บอกอืม แล้วหลังจากเลิกเรียน
ว่างปล่าว เธอบอกกะจะไปช็อปปิ้งในเมือง ผมก็เลยออกปากชวนว่า
ไปห้องสมุดกันอีกไหม เธอพยักหน้าแล้วบอก ไปสิ แต่ขอกลับบ้าน
ไปกินข้าวเที่ยงก่อน ผมคงลืมบอกไปสินะ A หน่ะเธอเปนVeggie
เปนมังสวิรัต ผมรู้มาตั้งแต่รู้จักเธอใหม่ๆแล้วนั้นคือสาเหตุที่ผมพา
เธอไปกินข้าวไม่ได้ เธอเปนผู้หญิงที่ออกจะเรื่องมากนิดๆเหมือน
กันนะ แต่เธอไม่เรื่องมากสำหรับผมหรอก สำหรับคนอื่น มักพูด
ให้ผมฟังเสมอ Aหน่ะ ไม่ค่อยจาชอบอาไรเหมือนชาวบ้านเขา
หรอก เธอไม่ชอบดุคอนเสริต ไม่ชอบไปปารตี้ ชอบอยุ่แต่กะหนังสือ
และก็ห้องเรียน เธอได้ 1 ในการสอบทุกครั้ง ทุกคนมักพูดเสมอ
ว่าเธอหน่ะเปน เคลเว่อร์เกิล ของเกรด สิบเอ็ด ผทเหนด้วย เพราะ
เธอเปนคนเดียว ที่พูดอังกฤษกับผมได้แบบไม่ต้องคิดเลย เธอแม่น
ศัพท์มาก ผมก้ไม่ได้เก่งอาไรหรอก ผมว่าผมแย่กว่าเธอด้วยซ้ำ
ผมแค่พอสื่อได้ว่าผมคิดอาไร และต้องการอะไร แค่นั้นเธอหน่ะ
ลากเอาศัพท์จากดิกอ๊อกฟอรด์มาใช้แบบไม่เปลืองเลย

เราตกลงว่าจะไปเจอกันที่เดิม ที่ป้ายรถเมล์ที่เราเคยเจอกัน
ครั้งแรกที่เราไป Phaeno ด้วยกัน ตอนบ่ายสาม ผมนะกลับ
บ้าน มา วางกระเป๋าเก็บของหมดแล้ว ผมลืมนึกไปว่าบ้านเธอ
หน่ะอยุ่ไกลจากเมืองมาก แล้วเราเลิกเรียนกันบ่ายโมง
นัดกันบ่ายสามกว่าเธอจะถึงบ้านแล้วกว่าจะออกมาหล่ะ เธอ
คงลำบากแย่ ผมเลยโทรไปหาเธอ กะจะบอกว่าไม่เปนไร
เรื่องเวลา ช้าๆก็ได้ผมรอได้ เธอก็บอกกลับมา ว่าวันนี้เธอ
มาอยุ่กับป้าเธอในเมืองห่างจากดาวทาวน์แค่ห้านาที เหอะๆ
 
ผมคว้าพิซซ่าจากเตาอบแล้วรีบหยิบกระเป๋า ควบจักรยานไปเลย
ผมปั่นสุดแรงเพราะไม่อยากไปช้าเหมือนคราวก่อน และคราวนี้
ผมก็ไปถึงก่อน ห้าห้า ชนะ ผมคิดในใจ ผมก็นั่งถ่ายรูปรอบๆแถวนั้น
ไปเรื่อยอย่างที่บอกวันนี้อากาศมันดีมาก ทึกคนมีแต่รอยยิ้ม
เด็กเริ่มออกมาวิ่งเล่นในสวนกันแล้ว ผมชอบมากๆ มองไปทาง
ไหนมีแต่เสียงหัวเราะเต็มไปหมด ผมไม่ทันรู้ตัวจนกระทั่งA เดินมา
ถีงผมเธอ สะกิดผมข้างหลังจากแบบที่เราหยอกๆกันที่ไทยแหละ
ที่สะกิดข้างนึงแล้วอยู่อีกข้างนึง แล้วก็ยิ้มเหมือนเคย รอยยิ้มนี้
ที่ผมชินตามาตลอดตั้งแต่รู้จักเธอ มันช่างเข้ากันกับบรรยากาศ
ของวันนี้จริงๆ นะ เราก็เริ่มเดินไปในดาวทาว เธอมาเพื่อช็อปปิ้ง

เอิ่มขอเกริ่น ก่อนนิดๆ ไอ้คำๆนี้หน่ะ มันฟังดูแล้วน่ากลัวมากนะสำหรับ
ผู้ชาย ช้อปปิ้งทันทีที่ได้ยินคำนี้ผม โอ้ววว คิดไปไกลแล้ว เพราะก็รู้
นิสัยผู้หญิงทั่วโลกนั้นเหมือนกันในข้อนี้ คือคงจำทอมได้ เมื่อประมาณ
วันเสาร์สุดท้ายของวันหยุดอีกเตอร์หน่ะ พวกเรานัดกันออกไปที่ดาวทาว
ที่เดียวกันนี้แหละ เมืองผมมันมีแค่นี้จริงๆ มีผม ทอม ลีโอนี่ มาร์ก และก็
ฟิลลิป ซรึ่งผมหน่ะกะจะไปซื้อหูฟังNokia แต่พวกเรานัดเจอกันเพราะพวก
เขาก็บ้านใกล้ๆผมทางเดียวกันและวันนั้นเรานั่งรถเมล์มาด้วยกัน เลย
คือคุณคงนึกไม่ถึง เชื่อไหมว่าในระยะประมาณห้าร้อยเมตรแรก เราใช้
เวลาเดินไปถึงเกือบหนึ่งชั่วโมงก็คุณทอมเธอเล่นหยุดเกือบทุกร้าน
ยิ่งมีว่าที่นางแบบอย่างลีโอนี่มาด้วยแล้ว พระเจ้า คุณเธอเล่นเลือกกันสะ
ไม่แคร์สื่อเลย กะเหมาร้านต้อนรับฤดูใบไม่พลิกันเลยว่างั้น แต่ก็ต้อง
ยอมรับสองคนนี้แต่งตัวเก่งจริงๆ เทียบกับAแล้ว สองคนนี้เขี่ยAตก
เวทีแฟชั่นไปเลย เพลอๆคุณเธอทั้งสองเอาปารีสฮิวตั้นอายเลยหล่ะ

กลับมาที่Aกับผม ผมคิดไว้ว่าเธอก็คงหยุดทุกร้านเหมือน ทอม ผมทำใจ
รอไว้แล้ว เธอเดินผ่านร้านแรก แล้วเจ้าไปดูหาซื้อแจ็คเก็ต แต่เหมือนเธอ
มีลิสของเสื้อผ้าที่เธอต้องการอยุ่แล้วเธอเดินตรงไปที่ล็อกโน้นล็อกนี้
หยิบ ลอง แล้วซื้อ แล้วก็ร้าน สอง ตามมาด้วยร้านที่สาม ใช้เวลารวม
ทั้งหมด 22 นาที ผมจับเวลาจริงๆนะ ผมอยากดูว่าเธอหน่ะแคร์เรื่อง
พวกนี้มากแค่ไหน แต่สไตล์การแต่งตัวเธอหน่ะพื้นๆมาก สีสันไม่ค่อย
จะมี เธอชอบเสื้อผ้าสีพื้นๆ เทา ขาว ดำ น้ำตาล ผมแทบไม่เห็นสีอื่น
นอกจากสี่สีนี้ จะมีบ้างก็เล็กน้อย ผมไม่เข้าไปยุ่งนะเวลาเธอเลือก
ผมก็บอกเธอแล้วเรามีเวลาเหลือเฟือ แต่เธอดูแล้วไม่สนใจเรื่องพวก
นี้จริงๆ เธอลองเสื้อเชิตของผู้หญิงตัวนึง แล้วถามผมว่าเข้ากับเธอไหม
ตายหล่ะ คำถามยอดฮิตเลย ผมเพิ่งอ่านไอ้กระทู้นึงเรื่องเก้าคำอันตราย
ของผู้หญิงไปเอง ผมก็เลยอืมมม บอกไปว่า yes แค่นั้นจริงๆ เธอยิ้ม
แล้วซื้อเสื้อตัวนั้น แล้วเราก็ฝากของไว้ในล็อคเกอร์ของห้องสมุด
แล้วเข้าไปอ่านหนังสือกัน แต่เพราะมันเปนครั้งที่สองแล้วที่เรามา
ที่นี้ ผมเลยยุ่งอยู่กับการหาหนังสือของผม เธอก็หาของเธอไป
แล้วเรามานั่งอ่านด้วยกัน คุยกันไปเรื่อยๆ นั่งขำกันอยู่สองคน
ผมให้เธอบอกสามสิ่งที่เธอชอบมา เธอไม่ยอมบอกเธอบอกว่า
ท่าเธอบอกผม ผมก็จะไปหามาให้เธออีก เหมือนตอนหนังสือ
คราวก่อน แล้วเธอก็ยิ้ม ผมก็เลยถามว่าแล้วไม่ชอบหรอ เธอ
ก็ตอบว่า ชอบสิ แต่เธอรู้สึกไม่ค่อยดี ที่ผมคอยแต่ทำโน่นทำนี้
ให้เธอฝ่ายเดียว เธอก็ถามผมมั้งว่าผมหล่ะชอบอะไร ผมก็บอก
กลับไป ก็ชอบมีเพื่อนมานั่งอ่านหนังสือด้วยไง เธอก็พยักหน้า
และบอกผมว่า อืมมม เธอหน่ะมักถูกเพื่อนๆบอกว่าเปนคนแปลกๆ
เธอไม่ชอบแบบที่เพื่อนๆชอบ เธอไม่ชอบไอศกรีม เธอเปนมังสวิรัต
เธออ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และอื่นๆอีกเยอะ เธอชอบน้ำมะนาว
ผมจะจำให้ขึ้นใจไปเลย ผมก็เลยบอกเธอว่าโอเค งั้นอ่านหนังสือเสร็จ
ไปกินน้ำมะนาวกัน เธอยิ้มแล้วพลักไหล่ผม บอกนี้ไงสาเหตุที่เธอ
ไม่อยากให้ผมรู้ เพราะผมรู้ทีไร ผมก็ตามใจเธอทุกที อืมแปลกเนาะ
มีคนมาตามใจก็ไม่ชอบ อีก แปลกจริงๆ แต่ก็น่ารักดี



ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?

Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
เหตุการทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ดี มันควรเปนวันที่ผมมีความสุข
ก็เจงๆนะผมมีความสุขมากวันนี้เรารู้จักกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่
สิ่งที่ผมไม่ได้คิดมันเกิดขึ้นต่อมา ผมให้เธอดูรูปในกล้องของผม
แต่ผมลืมย้ายรูปๆนึงออกจากไฟล มันเป็นรูปคนๆนึงที่ผมเคยชอบ
ซรึ่งตอนนี้เราไม่ได้เปนอะไรกันแล้วจริงๆ เพราะเธอก็ชอบคนอื่น
ที่ไม่ใช่ผม ผมปลงไปแล้วเรื่องนี้ Aเหนรูปนั้นแล้วถาม ว่านี้แฟนหรอ
ผมเหวอ ทันที อืมก็เกือบๆ ผมเลยบอกเธอไปว่า เคยนะแต่คงไม่ใช่
แล้ว ผมบอกเธอว่า ผมหน่ะมันน่าเบื่อไร้สาระแล้วก็น่ารำคาญเกินไป
เธอก็บอกไม่นะ ท่าผมเปนขนาดนั้นแฟนเก่าเธอคงยิ่งกว่า แฟนเก่า?

เธอหยิบรูปของผู้ชายคนที่ว่านี้ให้ผมดู ให้ตายดิ้น มันเป็นรูปเด็กผู้ชาย
ในชุดคอมแบตของบุนเดสแวร์ ใช่แล้ว เขาเป็นทหารเกณนั้นเอง
ตอนนี้เขาอยู่ที่โคโซโว ประเทศเล็กๆในยุโปรตะวันออกที่สนธิสัญญา
นาโต้ยังมีหน่วยทหารของยุโรปรักษาความมั่นคงของประเทศนี้อยู่
ผช็อคนะตอนนั้นผมเทียบหมอนี้ไม่ได้เลย แมร่งทั้งหล่อทั้งแมน
ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะรู้เท่าไหร แต่เธอบอกว่าพวกเขาเลิกกัน ใน
ช่วงสัปดาห๋ก่อนวาเลนไทน์ ผมไม่ได้สังเกตหน้าเธอตอนนั้น ผมก็
บอกทำไมมันเศร้าจัง แล้วเลิกเพราะอะไรหล่ะผมไม่น่าถามนะคำถามนี้
ผมไม่น่าถามจริงๆ ผมหันมามองเธอเธอนิ่งๆมองจ้องที่รูปใบนั้น
ผมไม่เคยเหนเธอเปนแบบนี้มาก่อน เธอเงียบไปน้ำตาเหมือนจะไหล
นี้ไม่ใช่Aคนที่ผมเคยเหนมาก่อน เธอเหมือนจะร้องไห้ ทั้งๆที่เมื่อก่อน
ผมไม่เคยเหนด้านนี้ของเธอก็เลยไม่รู้ ปรกติเธอจะมีแต่รอยยิ้ม

ผมตกใจหน้าผมซีดไปเลย เธอเงยหน้ามามองผมทำเหมือนฝืนจะยิ้ม
แล้วบอกว่า He want to be in the army,and he don t want to
put me through it ผมไม่อยากรู้ที่เหลือผมเลยบอกเธอว่า เขา
คงเปนคนดีมากสินะ เธอไม่ได้ตอบอะไรผม เธอเกบรูปเข้ากระเป๋า
แล้วทำเปนยิ้มอีกครั้ง ผมจับใจความได้เองและพอรู้ว่า เขาคนนั้น
คงอยากจะอยู่ต่อกับกองทัพเลยไม่อยากให้เธอที่กำลังเรียนอยู่
ต้องมาคอยยกังวลถึง ต้องมาคอยเปนห่วง ผมยิ่งรู้จักเธอ ก็ยิ่ง
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมไม่รู้จักเธอเลย ผมไม่เคยเหนเธอเปนแบบ
นี้ ไม่เคยเหนเธอนิ่ง แล้วเหมือนจะร้องไห้แบบนี้มาก่อน

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ผมสนใจว่าเธอยังรักเขาอยู่รึปล่าว ปัญหาไม่ได้
อยู่ที่ตอนนี้เธอคิดกับผมยังไง ผมมองย้อนกลับมาดูตัวเองว่าตอนนี้
เวลานี้ ผมอยู่ที่นี้ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ผมอยู่ที่นี้แค่เวลาสั้นๆ
ผมอาจลืมนึกถึงจุดๆนี้ไป ไม่สิผมนึกมาตลอด แต่ผมไม่เคยเคร์
ไม่เคยสนจนเหนสภาพของเธอวันนี้ ผู้หญิงที่ผมคิดว่าคงมีแต่ความสุข
ในชีวิตเธอ นั่งจ้องนิ่งไปที่รูปถ่ายใบนึง เหมือนจะร้องไห้ และเปน
ครั้งแรก ที่ผมเหนเธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ผมมันเห็นแก่ตัว ที่ไม่เคย
คิดด้านของเธอมาก่อน ประวัติศาสตร์มันเกือบจำซ้ำรอยเดิม ทั้งของ
เธอและของผม ผมเองเคยเปนแบบนี้มาก่อน เรื่องมันยาว แต่บอกได้
เลย เชื่อผมเถอะมันไม่ได้จบสวยหรุนัก มันเจ็บแทบตายเลย มันเป็น
สาเหตหนึ่งที่พลักผมให้หนีมาอยู่นี้ให้ไวที่สุดนี้หล่ะ ที่ผมบอกว่ามัน
เกือบจะซ้ำรอย มันอาจเป็นการด่วนสรุปไปของผมก็ได้ แต่เธอพุดเรื่อง
นี้กับผม มันคิดได้สองแบบ ท่าผมเข้าข้างตัวเองนั้นก็หมายความว่าเธอ
เริ่มมีใจให้ผมเลยกล้าบอกเรื่องแบบนี้ อีกมุมนึง ผมกลายไปเปนเพื่อนสนิท
ของเธอไปแล้วเธอจึงเชื่อใจผม พอที่จะบอก แต่ไอ้เรื่องนี้ไม่สำคัญกับ
ผมเลยเทียบกับความรู้สึกของเธอ ความสุขของผมมันไม่สำคัญเลย
เทียบกับเธอ ผมยอมได้ทุกอย่างขอแค่อย่าให้เธอเปนแบบวันนี้อีก

อยากให้มองจากมุมลึกๆมุมนึง ว่าท่าสมมุติเรื่องนี้มันไปได้สวยจน
ผมกับเธอเปนแฟนกันจริงๆ ซึ่งผมบอกได้เลยโอกาศมันเกินครึ่งมา
แล้ว แล้วจนวันนึงผมต้องกลับไปไทย ไปเผชิญหน้ากับความเปนจริง
ของชีวิตผม ชีวิตที่ผมหนีให้ตายก็หนีไม่พ้น ผมมีหน้าที่มีความฝันให้
ตาม ความฝันที่มันคงไม่ต่างอะไรนัก จากแฟนเก่าของเธอ และไม่
รู้ว่าชีวิตนี้จะมีโอกาศได้กลับไปเจอเธออีกไหม มันเจ็บนะ เจ็บมาก
กับความไม่แน่ไม่นอนของชีวิต มันทรมานมากกว่าการ ฆ่ากันให้ตาย
ซึ่งๆหน้าเสียอีก แต่ในตอนที่คุยกับเธอนั้นผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก

ผมยังช็อคและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย พยายามหาอะไรที่ทำให้เธอ
กลับมายิ้มอีกรอบ แต่ดูแล้วมันแทบไม่มีทางเลย เธอซึมไปกับหนัง
สือ ผมเลยหยิบหนังสือแล้วบอกเธอว่าไปกินน้ำมะนาวกันดีกว่า เธอ
ฝืนยิ้ม แล้วคว้าหนังสือสองเล่มที่จะเอาไปอ่าน เราเดินออกมาจาก
ห้องสมุด ผมไม่ทันได้สังเกตท้องฟ้า เราซื้อน้ำมะนาว ขอบอกว่าแพง
บรมเลยหล่ะ แต่ผมไม่เคยลืมสัญญาที่เราให้กันไว้ ว่าครั้งต่อมาผมต้อง
ออกเเงินให้เธอ ผมรีบคว้าเงินชิงจ่ายตัเหน้าเธอ เธอยิ้มอีกหล่ะ แต่มัน
ก็ดูเปนยิ้มที่หมองๆ ผมก็หมองไม่แพ้กับเธอ ไม่ใช่ว่าค่าน้ำมะนาวมันแพง
หรอกนะ แต่ให้ตายเหอะ ผมไม่สบายใจเลยที่เหนเธอเปนแบบนี้ เราเดิน
กันไปคุยกันไป แต่มันก็ดูไม่ค่อยจะสนุกเท่าไหร่ จนจะถึงป้ายรถเมล์
ฝนก็เทตกลงมา เข้ากับบรรยากาศมาก ผู้คนเริ่มหลบเข้าร่มกันแล้ว มัน
ก็ตกไม่หนักหรอกนะ แต่มันก็คงทำให้เปนหวัดเอาได้หล่ะ ผมหน่ะใส่แค่
เสื้อยืด ผมจูงมือเธอไปที่ป้ายรถเมล์ และคนก็เยอะเหลือเกิน เหมือนไอ้วัน
เกิดเธอเเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนไม่มีผิด ที่มันแคบ ผมให้เธอหลบเข้าไปใน
ร่มให้ได้ก่อน ผมนะ เดินออกมารับฝนเต็มๆ ตอนนั้นผมก็เฮริทนะ ไม่รู้
เปนบ้าอะไรด้วย คงอยากเปนพระเอกเอ็มวีหล่ะมั้ง เธอเคาะกระจกแล้ว
บอกให้เข้ามาหลบสะ ผมส่ายหน้า เธอเดินออกมาจูงมือผมกลับเข้าไป
ในร่ม เรายืนติดกันแต่ผมไม่กล้ามองหน้าเธอ ผมไม่อยากให้เธอเหนว
แววตาตอนนั้นเลย แววตาผมมันคงบอกทุกสิ้งที่ผมคิดกับเธอไปจนหมด

เธอบอกผมว่าแล้วผมจะกลับบ้านยังไงหล่ะท่าฝนตก ผมบอกเธอว่า
ผมจะรอจนกว่ารถเมล์ของเธอจะมาแล้วจะกลับไปทั้งอย่างนี้หล่ะ
เธอส่ายหน้าแล้วบอก ผมบ้าหรือปล่าว เดียวก็ไม่สบายตอนวันหยุด
ยาวหรอก ผมยักไหล่ เธอยิ้มแล้วบอกว่า ท่าไม่สบายอาทิตย์หน้า
ใครจะเอาหนังสือมาคืนกับเธอหล่ะ เธอบอกเธออ่านหนังสือสี่ร้อย
หน้าวันเดียวก็จบแล้ว ผมก็ยิ้ม แล้วบอกว่าต่อให้ผมไม่สบายแค่ไหน
ท่ามีเพื่อนมาห้องสมุดกับผม ผมก็จะฝืนมา เรายืนนิ่งไม่ได้พูดอะไร
กันเธอพยายามชวนผมคุย แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร บรรยากาศมันเปลี่ยน
ไปเลยจริงๆ ผมอธิบายไม่ถูก จนรถเมล์ของเธอมาผมกอดเธอ กอดในที่
นี้คือการกอดแบบบอกลาธรรมดา ในฐานะที่ยังเปนเพื่อน เพราะเธอ
ยังไม่รู้หรอกว่าผมคิดยังไงกับเธอ เพราะผมยังไม่ได้บอก

และก็คงไม่คิดว่าจะบอกมันกับเธอเร็วๆนี้ เหตการนี้ทำเอาผมช็อค
ไปจริงๆ ผมไม่ต้องการเห็นเธอเป็นแบบวันนี้อีกเลย รอยยิ้มเดิมมัน
หมองไปทันที ผมต้องการเวลาคิดย้อนไปย้อนมา วันนี้ผมเจ็บ
จริงๆ ไม่รู้ทำไม มันดุแล้วไร้สาระ มันเปนเรื่องที่จบไปแล้วของเธอ
แต่มันกลับทำให้ผมคิดมากแทนเธอไปสะอย่างนั้น ผมไม่กล้าจริงๆ
ไม่กล้าที่จะบอกเธอ กลัวว่าบอกไปแล้วมันจะยิ่งทำให้เหตุการนั้น
แย่ลง สับสนโคตรๆเลยครับวันนี้ แผนการใหญ่ที่ว่าก็คงต้องระงับ
ไว้ก่อน อาทิตย์นี้คงต้องถามใจตัวเองอีกที บอกได้เลยนี้เปนเหตุ
การแรกนับแต่มานี้ที่ทำให้ผมหมองลงไปได้ หมองจริงๆ หมอง
เหมือนเมฆฝนในวันนี้ที่มันไม่รู้มาจากไหน วันนี้มันควรเปนวัน
ที่อากาศดีที่สุดสิ ผมตื่นมาตอนเช้าเปนวันแรกเลย ที่ไม่ต้อง
ใส่เสื้อคลุมไปเรียน แต่มันสอนให้จำไว้แม่นๆอย่างหนึ่งว่าในทุกๆ
เครื่องหมายบวกที่มีบนโลก มักมีเครื่องหมายลบตามมาใกล้ๆเสมอ
สมการง่ายๆของชีวิตจริงไม่อิงนิยาย ผมคือหลักฐานที่มีชีวิตเลย
หล่ะ เปนวันแรกจริงๆที่เกือบจะร้องไห้นับแต่วันที่บินมานี้


ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?

Offline ~ ♥ หมิวจัง ★☆ Norway#49 ♦ ♫

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 181
  • Gender: Female
  • ~★ИøЯWαЧ ŁiSм ★~
    • My Facebook
    • hi5
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #127 on: May 01, 2010, 05:20:18 PM »
สู้ต่อไป ทาเคชิ!!!

อย่าได้ท้อ .. ! :))
~* ☆★☆I LOVE NORWAY :: MIEW+ AFS NORWAY#49 ☆★☆*~


Offline P@t!p@n NOR#49

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 368
  • Gender: Male
  • หัวโบ้ง!!!
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #128 on: May 01, 2010, 08:11:59 PM »
เรื่องนี้

คงเป็นอีกตัวอย่างที่ต้องใช้เวลาตัดสิน

ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ
Fra Lofoten til Mjøsa
Fra Akersgata til Sognefjord
Fra Nidaros til Operahuset
Kunngjøre ''Thai'' til verden

Offline BlackMiracle

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 136
  • Gender: Male
    • My Facebook
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #129 on: May 01, 2010, 08:51:42 PM »
โอ้ย ทำไมมันเหมือนนิยายได้ขนาดนี้

Offline FeRn Ger[sh]#48

  • AFSer Sophomore
  • *
  • Posts: 83
  • Exchange In: Germany
  • Generation: No
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #130 on: May 01, 2010, 11:12:31 PM »
ฟังดูแล้ว ถ้าถึงขั้นจับไม่จับมือแล้ว โอกาสก็มีมาก เราว่าตอนนี้เค้าแค่บังเอิญไปคิดถึงคนๆนั้นมากกว่า เลยทำให้เป็นแบบนี้

ในฐานะที่นายสนิทกับเค้าแล้วก็ใกล้ชิด แล้วนายก็ทำทุกอย่างให้เค้ามีแต่รอยยิ้ม เราว่าวันนึงเค้าจะต้องหันมาที่นายเป็นคนแรก

เพราะถัดออกมาจากโลกของเค้า เค้าก็มีแต่นาย เพราะงั้นเราว่าโอกาสของนายมีมากพอตัวเลย ก็เทคแคร์เค้าต่อไป ทำตัวเหมือนปกติ

อยู่มาแป๊บเดียวเอง นานไปกว่านี้ซักพัก เรามั่นใจว่ามันจะมีการพัฒนา คนเยอรอ่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง เห็นอย่างนั้นเป็นคนอ่อนไหวจะตาย

แต่ปัญหาอยู่ที่ นายคิดว่า ถ้านายได้เป็นแฟนเค้า แล้วนายว่านายจะรักษาควาสัมพันธ์ไปได้นานแค่ไหน? ก่อนเรากลับไทย

เรายังต้องเลิกเลย เราไม่อยากให้ใครต้องรอ มันจะเจ็บทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดไปชอบคนอื่นกัน ก็จะรู้สึกผิดต่อกัน แต่อันนั้นก็ช่างมันเถอะ

นายก็ทำปัจจุบันของนายให้ดีละกัน เราว่าจากที่เล่ามาเราว่าตอนนี้เป็นพื่อนสนิทกันอยู่ แต่หลังจากนี้...ก็อยู่ที่นาย ค่อยๆแสดงออกมันไปทีละนิด

เราเชื่อว่านายทำได้ เพราะนายหวังดีกับเค้า และเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะเด็กAFS เยอรเหมือนกัน ก็เป็นกำลังใจให้ละักัน

Offline POOM GER#49SH

  • AFSer Graduate
  • *
  • Posts: 786
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #131 on: May 01, 2010, 11:53:45 PM »
เออเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาเว้ย ลองๆดูท่าทีของเค้า

Offline Pairaya SH

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 169
  • Gender: Female
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #132 on: May 02, 2010, 07:01:40 PM »
นิยายชัดชัด
แต่...สู้วะ!

Offline ::NewLy..,GER[SH]#49~::

  • AFSer Graduate
  • *
  • Posts: 913
  • Gender: Female
  • AFS GER#49 [SH..รัก Ger[SH] มากมาย
    • My Facebook
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #133 on: May 02, 2010, 08:38:17 PM »
krisdi eiii - -*
New bii - -*

Lass mich tanzen !!

haha !!

Ger[SH]#49 !!

Offline >>Krit<<"Right in Wolfsburg"

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 469
  • Gender: Male
  • Ich bin wer Ich bin,Alles klar?
    • My Facebook
    • HI5 ของป๋ม
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
Re: Ist er dein Freund? Updated part 4 page 9 since 30/04/10
« Reply #134 on: May 03, 2010, 03:32:11 AM »
ma sa tem yod lei na meung E new Buam -*-


ปล 1 ทำไมกูดำอย่างนี้

ปล 2 ตกลงจะมีใครมาอยู่กับกิดมั้งไหมคร๊าบ เนี่ย

ปล 3 ท่าเลือกได้ ขออยู่แบบนี้ตลอดไปได้ไหม?