Address ต้นฉบับ :
http://giggapooh2010.exteen.com/20100824/entry-1/page/1#lastcommentขออนุญาตนำมาเผยแพร่หน่อยนะคะ
เสื้อผ้า รองเท้า แม้เป็นของที่ดูแล้วไม่น่าจะหนักมากมาย แต่ก็ทำให้คนน้ำหนักเกินมาเยอะแล้ว นอกเหนือจากเสื้อผ้าที่ต้องใส่ประจำแล้วที่จะแนะนำอันดับแรกเลยก็คือชุด ไทย1ชุดสำหรับงานเทศการไทยๆทั้งหลาย เพราะที่อเมริกาจะมีสมาคมคนไทย และวัดไทยอยู่มากมาย
สภาพภูมิอากาศของประเทศทั้งสองนี้มีฤดูอยู่ในช่วงเดียวกัน คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยรวมแล้วประเทศแคนนาดา ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็น ถึงเย็นจัด หิมะตก ในขณะที่ทางใต้จะเป็นเขตอบอุ่น มีอากาศ ชื้นทางชายฝั่งทั้งตะวันตกและตะวันออก ทั้งยังมีฝนตกในหน้าหนาวด้วย ช่วงที่อบอุ่นที่สุดคือ ระหว่างเดือน มิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จะมีอุณหภูมิสูงกว่า 20 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ล้วนแต่เป็นช่วงที่น่าไปเยือน
1. ฤดูใบไม้ร่วง ช่วง กันยายน – พฤศจิกายน อากาศช่วงนี้จะเย็นลงเพราะเตรียมตัวจะเข้าหน้าหนาว สำหรับคนขี้หนาวก็จะเริ่มหาเสื้อแขนยาวมาใส่กัน ซึ่งก็อีกเหมือนกัน ที่นี่มีขายให้เลือกเพียบ ลายก็น่ารักๆ ถ้ามีอยู่แล้วที่บ้านก็เอาติดกระเป๋ามา แค่ 2-3 ตัวพอ ไม่หนักมาก แล้วที่เหลือก็มาซื้อที่นี่เอาได้
2. ฤดูหนาว ประมาณช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิ จะมีตั้งแต่ ติดลบ -40c ถึง 7C แล้วแต่ว่าเราจะอยู่ภาคไหนของประเทศ ถ้าเป็นภาคตะวันออก (Eastern)รวมถึงตอนกลาง ( Central) เมืองที่อยู่ในเขต EST คือ Boston, New York, Washington D.C., Miami Cleveland Chicago และ New Orleans ซึ่งเสื้อผ้าที่ใส่ก็จะเป็น Overcoat หนาๆ ถ้าเป็นแถบภูเขา (Mid- West) เมืองที่อยู่ใน เขตนี้ คือ Denver และ Phoenix อากาศจะหนาวเย็นแต่ไม่ถึงกับติดลบ แต่ถึงอย่างไรเสื้อ Overcoat หนาๆก็ยังจำเป็นอยู่ พื้นที่ย่านมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Time Zone) เมืองที่อยู่ใน เขตนี้ คือSan Francisco, Seattle และ Hawaii ตั้งแต่ Seattle ลงไปอากาศจะหนาวเย็นแต่ไม่ถึงกับติดลบ แต่คนอาจจะใส่ overcoat เพื่อความเท่ ก็ได้
แต่ขอเตือนสำหรับน้องที่จะไป Seattle ที่นั่นฝนนึกจะตกเมื่อไรก็ตก ไม่ขึ้นอยู่กับหน้าอะไรทั้งสิ้น เค้าว่ากันว่าบางปีตกนานถึง 11 เดือนทีเดียว เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับที่นี่ คือ Rain Jacket หรือร่ม (ร่มของเมืองไทยไม่ต้องเอามานะ ต้านทานลมไม่อยู่หรอก)
Rain Jacket สามารถหาซื้อได้ที่เมืองไทยเพราะของพวกนี้เค้าผลิตในเมืองไทยก็มี อย่างเช่น Northface, Jack Wolfskin หรือ Columbia นะ หาซื้อได้ตามศูนย์ส่งออก หรือ Outlet ไม่แพงมาก และไม่หนา ไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋า
รองเท้ากันหิมะ ค่อยมาเลือกซื้อที่นี่จะมีคุณภาพและกันความหนาวเย็นได้ดีกว่า
Overcoat ไม่แนะนำให้ซื้อมาจากเมืองไทย เพราะที่นั่นมีขายเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นของแบรนด์เนมหรือไม่มีชื่อคุณภาพก็ดีมาก ประเทศนี้มีOutletเสื้อผ้าราคาถูกอยู่ทั่วเมื่อง เลือกได้สบาย ราคาพอกับเมืองไทยหรืออาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ
3. ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม – พฤษภาคม อากาศช่วงนี้จะอุ่น หน้านี้ใส่ประมาณ Jumper และ Jacket ซึ่งก็อีกเหมือนกัน ที่นี่มีขายให้เลือกเพียบ ลายก็น่ารักๆ แนะนำว่าเอามาจากไทย แค่ 2-3 ตัวพอ แล้วที่เหลือก็มาซื้อที่นี่เอาได้
4. ฤดูร้อน ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม หน้าร้อนที่นี่จะร้อนพอกับเมืองไทย บางวันร้อนก็มาก ชนิดที่ว่าใส่เสื้อกล้ามหรือสายเดี่ยวได้สบาย ให้เอามาจากเมืองไทยก็ดี เพราะบ้านเราเสื้อผ้าหน้าร้อนราคาไม่แพง แถมสวยกว่าด้วย และไม่กินเนื้อที่มาก พวกกางเกงขาสั้นเสื้อกล้าม เอาไปด้วย เพราะที่นี่แพงมาก