เอาล่ะครับหลังจากหายหัวจากบอร์ดไปนานเนื่องจากไม่ค่อยว่างเข้า
วันนี้พอดีได้มีโอกาศไปเค้าเดาน์ที่บอสตั้นนะครับเลยจะขอหาสาระมาฝากนิดนึง
---วันแรก---
เอาล่ะมาประเดิมกันที่ร้านหนังสือแคมบริจด์อันลือชื่อข้างๆฮาวาร์ดกันก่อนเลยละกัน
หลังจากสังเกตุดูรอบๆร้านหลายทีก็ขอมาประกาศว่าพวกฮาวาร์ดบ้าดีจิงๆ(ลองสังเกตชื่อหนังสือดีๆนะพี่น้อง)
บรรยากาศที่ถนนแคมบริจด์
เอาล่ะเดินเข้ามาในฮาวาร์ดอันลือชื่อกันหน่อยดีกว่าในนี้มีสถานที่สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ตามนี้เลย
ด้านบนนี้คือบ้านหลังที่จอร์ช วอชิงตันใช้เป็นศูนย์บัญชาการในช่วงสงครามกลางเมืองนะครับหรือจะเรียกว่าเป็นทำเนียบประธานาธิปดีแห่งแรกก่อนทำเนียบขาวนะครับ
ส่วนนี่คือHarry Elkins Widener Memorial Library เป็นหอสมุดที่อยู่ด้านในฮาวาร์ดนะครับเป็นหนึ่งในสามหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
หอสมุดแห่งนี้มีที่มานะครับ หลายๆคนคงเคยดูหนังชื่อก้องโลกเรื่องไททานิคกันนะครับเรื่องมีอยู่ว่าตา เฮ็นรี่ เอริค เนี่ยเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเรื่อนะครับโดยตาคนนี้เนี่ยเพิ่งจบมาหมาดๆและแม่ของเค้าก็รู้สึกเสียในมากและก็ก็รู้ว่าเอริคเนี่ยรักที่นี่มากเค้าก็เลยก่อสร้างหอสมุดแห่งนี้มาเป็นอนุสรณ์ถึงเอริคนะครับ
ส่วนอันนี้ฮาหน่อยนี่เป็นรูปปั้นของนาย เจมส์ ฮาร์วาร์ด นะครับ
รูปปั้นนี้มีชื่อเล่นว่า"three lies"หรือแปลง่ายๆว่าเรื่องโกหกสามอย่างนะครับ
ที่มาของชื่อนี้มีดังนี้
1.ไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของนายฮาร์วาร์ดเนี่ยเป็นยังไงเพราะฉะนั้นไอหน้าบนรูปปั้นเนี่ยแหลสด
2.นายฮาร์วาร์ด ไม่ใช่คนก่อตั้งมหาวิทยาลัยตามที่เขียนไว้บนรูปปั้น (คนส่วนใหญ่เข้าในผิดเพราะชื่อมหาลัย)เพราะฉะนั้นมันมั่วนิ่มอีกแล้ว
3.มันเขียนวันก่อผิดไปเกือบๆสามสิบปี
มันน้่าสงสัยจิงว่าใครมันเป็นคนสร้างไอรูปปั้นนี้สุดจะมั่ว......
เอาล่ะย้ายจากฮาร์วาร์ดกันดีกว่ามาเข้าเรื่องประวัติศาสตร์อเมริกากันบ้างหลายๆคนคงจะรู้ประวัติศาสตร์อเมริกากันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนเด็กแมกาก็ขุดๆความรู้ใช้คลาสเรียนกันขึ้นมาหน่อยนะครับ หลายๆคนคงจำกันได้ว่าจุดเริ่มต้นของการประกาศอิสรภาพจากบริเตนหรืออังกฤษเนี่ยมันเริ่มมาจากการที่มีม๊อบชาวนาชาวบ้านไปเรียกร้องลดภาษีแล้วโดนยิงตายกันไปห้าคนนะครับ
นี่เป็นรูปปั้นถึงชาวนาที่ตายไปนะครับ ส่วนคนในรูปก็ผมเองนะครับ งิๆ
เอาล่ะต่อๆยังไม่หมดเอาล่ะขุดความรู้กันอีกนิดนึง คำถามที่แห่งแรกที่ทหารอังกฤษกับชาวนาอเมริกาปะทะกันเอ่ย?
คำตอบคือ ที่หมู่บ้านคอนคอร์ด สมรภูมินอร์ทบริจด์ นะคร๊าบบบบ
อันสุดท้ายเป็นภาพถ่ายจากบนสะพานที่ว่าเน้อ สวยชิมิล่ะ
อันนี้หมู่บ้านคอนคอร์ดปัจจุบันนะครับ อิๆไปเดินช็อปมา
เอาล่ะใครเล็งคณะวิศวะไว้น่าจะน่าสนใจพวกนี้นะครับขอนำเสนอพิพิธพัณธ์ที่เก็บรวบรวมผลงานบ้าๆบอๆของเด็กนักเรียนจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านวิศวะกรรมนะครับ MIT
เปิดกันด้วยนี่โฮโลแกรม
หมายเหตุ.รูปต่อไปนี้ทั้งหมดมีความหนาไม่เกินหน้ากระดาษนะจ๊ะ
ไอรูปสุดท้ายนี่หลอนมองได้ทุกมุมเหมือนของจริงเลย
เอาต่อไปหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์จากโจทย์เอาอุปกรณ์ที่หาได้ในห้องเรียนมาประกอบนะครับ
กลายเป็นหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยเคลื่อนที่ได้....
ปล.ใครมันแงะเอากล้องวงจรปิดในห้องมาประกอบฟะ
ส่วนอันนี้เป็นหน้าหุ่นยนต์ที่แสดงอารมณ์ได้แบบมนุษย์นะครับ(มองยังไงมันก็ไม่ใช่คนแหะ)
ตัวอย่างร่างแบบที่เด็กนักเรียนทำส่งอาจารย์นะครับ(ใครเข้าใจมั่งมันคิดไรอยู่?)
---วันที่สอง---
กลับมาเข้าเรื่องประวัติศาสตร์กันต่อวันนี้เต็มๆ
อันนี้เป็นรูปโบสถ์บอสตั้นสตรีทนะครับถ่ายมาจากฝั่งสวนสาธารณะบอสตั้นคอมม่อนจุดเริ่มต้น
เดินกันต่อมาก็จะเป็นหลุมศพของนายแฟรงค์คินนะครับหนึ่งในวีรบุรุษในการประกาศอิสรภาพ
ด้านบนนี้เป็นรูปศาลากลางเก่านะครับมีประวัติเป็นโรงเรียนแห่งแรกของอเมริกาด้วยนะครับ
อันนี้จากพื้นด้านหน้าตัวอาคาร ส่วนปัจจุบันศาลากลางหลังเก่าแห่งนี้เปิดทำการเป็นร้านสเต็กไปซะแล้ว(กลิ่นหอมหวนมากกก)
ส่วนตึกนี้เป็นสถานที่นัดพบกันในเหตุการณ์ งานเลี้ยงน้ำชาบอสตั้นนะครับ
ส่วนนี่เป็นภาพจากด้านในที่ทำการของบริเตนนะครับในสมัยที่ยังเป็นโคโลนี่อยู่
เสร็จแล้วก็ไปเดินรอบเมืองต่อแล้วก็เจอของน่าสนใจอีกแล้ว
สถานที่นี้เรียกกันว่า โฮโลครัส เป็นสถานที่ที่รวบรวมหมายเลขของชาวยิวที่เสียชีวิตในค่ายกักกันของเยอรมันนะครับร่วมๆล้านกว่าหมายเลข
พอล รีเวอร์เร่ คุ้นๆชื่อกันรึเปล่า
เอาล่ะใครไม่คุ้นชื่อจะอธิบายให้ฟังเดี๋ยวนี้แหละ
พอล รีเวอร์เร่ คือวีรบุรุษอีกแล้วครับท่านเค้าคือคนที่ขี่ม้ามาจากคอนคอร์ด(ไม่รู้จักกลับไปดูด้านบน)เพื่อมาเตือนชาวเมืองว่าทหารบริเตนได้เคลื่อนทัพมาถึงแล้วทำให้พวกชาวเมืองเตรียมการรับมือได้ทันซึ่งเป็นโดยเค้าได้แขวนโคมไฟไว้บนยอดของโบสถ์ซึ่งรูปด้านบนก็คือโบสถ์ที่เค้าแขวนไฟเตือนไว้นะครับ
ขอจบวันที่สองนะครับ