Author Topic: นิทาน บริสุทธิ์, เรื่องโง่ๆที่อยากให้ทุกคนลองอ่าน  (Read 11446 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline ฃื่อปั๊บคับ นอร์เวย์ คับ

  • AFSer Honor Graduate
  • *
  • Posts: 2852
  • Gender: Male
  • Klæbu , Norway
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
ผมขออกตัวล้อฟรีก่อนเลยนะครับว่าผมแต่งเรื่องนี้เอง สดๆบนเฟซบุ๊ค และอยากจะแชร์ให้หลายๆคนได้อ่าน เพราะผมว่าผมไม่ได้ชอบเรื่องนี้มากมายนะ แต่เขียนลงไปได้ยังไงไม่รู้ 555

ถ้าเกิดว่าพล็อตมันเดาง่ายไปไม่ เหมาะกับแฟนตาซี, เนื้อเรื่องคล้ายอะไรสักอย่างที่เคยอ่านมาแล้ว ผมก็ต้องขอโทษ แต่สาบานว่าผมนั่งเขียนเองจริงๆ

จะวิจารณ์ไม่วิจารณ์ ก็ตามสบายนะครับ :D

 ^^


-------------------------------------------------------------------------------

นิทาน เรื่องนี้ แต่งสดและไร้ที่มาที่ไป ทุกบรรทัดเราบรรจงคิดถ้อยคำที่เหมาะสมกับนิทานลงไป อนึ่ืงนิทานเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 20 ปีลงไป อาจจะไม่มีภาพ เสียง หรือเนื้อหา ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม เพราะมีให้อ่านอย่างเดียว ผู้ชมที่มีอายุมากกว่า 20 ปีควรได้รับคำแนะนำ


--------------------------------------------------------------------------
 

กาล ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้าถูกขนานนามว่าเป็นเด็กชายที่โง่ที่สุดในหมู่บ้าน

กาล ครั้งหนึ่งนานพอๆกัน เพราะมันเป็นเวลาเดียวกัน มีเด็กหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งถูกขนานนามว่าฉลาดที่สุดในหมู่บ้านเช่นกัน

เนื่อง ด้วยหมู่บ้านที่เล็กและไม่เจริญเหมือนในเมืองหลวง โรงเรียนในหมู่บ้านจึงมีอยู่แค่แห่งเดียว

ทั้งสองจึงต้องไป โรงเรียนเดียวกัน โดยไม่มีการแยกโรงเรียนคนโง่หรือโรงเรียนคนฉลาด เหมือนในเมืองใกล้ๆของเขา

เด็กชายโง่ได้พบกับเด็กหญิงฉลาด ไม่รู้เพราะเขาโง่หรือเพราะอะไร เขาจึงตกหลุมชอบเด็กหญิงตั้งแต่แรกพบ

เขา สารภาพชอบกับเด็กหญิงทันทีที่เขาได้พบเจอกับเธอ

เด็กหญิงยิ้ม อย่างเขินอาย และบอกกับเด็กชายไปว่า เรายังเด็ก มันยังไม่ถึงเวลา, แน่นอนว่าเพราะเด็กชายโง่ เลยไม่เข้าใจความหมายของมัน

เด็ก ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างไม่น่าเป็นไปได้ พ่อแม่ของเด็กชายก็ดีใจที่เด็กชายได้เป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กหญิง เพราะเด็กชายคงฉลาดขึ้นได้สักวันหนึ่ง

แต่เพราะเด็กชายคนนั้น โง่ เลยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

โง่ก็คือโง่

จน เด็กชายโตเป็นวัยรุ่น, แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร สำหรับเขาการมีชีวิตให้หายใจก็เป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

ณ ตอนนี้เราจึงขอเปลี่ยนเป็นนายโง่แทน

นายโง่ซึ่งรู้จักกับเด็ก หญิงฉลาดมานานจนเธอโตเป็นนางสาวฉลาด, เธอมีหน้าตาที่สดสวยและสามารถเป็นเทพีนพมาศของหมู่บ้านได้สบายๆ , แน่นอนว่าสำหรับนายโง่เขาไม่รู้ว่าอะไรคือนางนพมาศ แต่เขารู้เพียงว่าเขายิ่งชอบเธอมากเข้าไปอีก

เขาสารภาพชอบกับ นางสาวฉลาดอีกครั้ง นางสาวยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะบอกเขาว่า เรายังอยากจะเรียนต่อในเมือง ไว้จบแล้วเราค่อยมาคุยกันนะ

แน่ นอนว่านายโง่ไม่รู้ว่าการเรียนต่อคืออะไร เขากลับไปถามพ่อกับแม่จึงรู้ว่าการเรียนคือการไปโรงเรียน การไปเรียนต่อคือการเรียนในโรงเรียนที่ใหญ่กว่านั่นเอง

นาย โง่ซึ่งตีความคำว่าโรงเรียนเป็นสนามเด็กเล่น, เพราะเขาเอาแต่เล่นตอนไปโรงเรียน, คิดว่าการเรียนต่อต้องสนุกมากแน่ๆ ได้เรียนในที่ที่กว้างใหญ่ แถมยังเติบโตพอที่จะปีนต้นไม้ได้ด้วย นายโง่จึงแอบโกรธนางสาวฉลาดที่จะไปเรียนโดยไม่พาตนไปด้วย

เด็ก หนุ่มจึงขอพ่อกับแม่เข้าเมือง เพื่อจะไปเรียนให้สนุกตามที่เขาต้องการ, แต่พ่อแม่กลับดีใจที่เขาอยากจะเรียนต่อ

พ่อกับแม่พานายโง่ไป สมัครเรียนในเมือง แต่เพราะความโง่จึงไม่มีใครรับเขาเข้าเรียน

เด็ก หนุ่มเสียใจว่าทำไมจึงไม่มีใครรับตนให้ไปเรียน..เอ่อ เล่นด้วย จึงเสียใจและร้องไห้อย่างหนัก

และตอนนั้นเองที่เพื่อนสมัย เด็กของเขาชักชวนให้เขาลองยาที่เขาได้ยินว่ามันจะทำให้สนุก, แน่นอนเพราะว่าเขาโง่ จึงกินมันโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง.... ที่จริงคือไม่คิดอยู่แล้ว

เขาติดยาเม็ดนั้นทันที และต้องรับจากเพื่อนมากินอยู่บ่อยๆ จนพ่อแม่จับได้.. ไม่สิ เขาไปบอกพ่อแม่ให้ลองด้วยซ้ำ

เขาถูกพ่อแม่พาไปที่ที่หนึ่ง แน่นอนเพราะเขาโง่เลยจำชื่อไม่ได้ สะถานหรือสะพานอะไรสักอย่าง

เขา อยากกินยาเม็ดนั้นมากแต่คุณครูที่ใส่ชุดแปลกๆบอกว่ามันไม่ดี เขาจึงต้องอดทนกินลูกอมแทน
 
เป็นเวลานานนับห้าปีที่เขา ต้องอยู่ในสะถาน..เอ้ยสะพาน.. เอ่อช่างมันเถอะ จนเขากลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ พบว่าพ่อเขาเสียแล้ว!

เขาเสียใจมากที่ไม่มีใครพาพ่อของเขาไป ซ่อม เขาจึงเก็บตัวเงียบ เพื่อนคนเดิมนำยาตัวเดิมมาให้เขากิน แต่เขาไม่อยากกลับไปอยู่ในที่ที่แบบนั้นอีกแล้ว เพราะเขากลัวว่าจะไม่มีใครพาแม่ของเขาไปซ่อม
 
ในปีนั้นเองที่ นางสาวฉลาดได้กลับมายังหมู่บ้านพร้อมด้วยแผ่นแข็งๆสีดำๆ และชุดประหลาดๆสีดำๆดูเก้งก้าง กับหมวกหน้าตาน่าเกลียดที่เขาคิดว่าหมวกอาบน้ำลายกบสีเขียวของเขายังน่าใส่ กว่าเยอะ

ถึงแม้ว่าชุดจะประหลาดเพียงใด แต่นายโง่ก็ยังคงชอบสาวฉลาดไม่มีเปลี่ยนแปลง เธอดูสวยขึ้นสาวขึ้นมาก เขาจึงไปสารภาพชอบกับเธออีกครั้ง

เธอมองหน้านายโง่พร้อมทำ หน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ก่อนบอกว่าเพราะเขาติดยาบ้า เธอจึงไม่อยากให้อนาคตของเธอต้องมาจบที่เขา

เขาถามเธอว่าอะไร คืออนาคต เธอตอบว่าอนาคตคือสิ่งที่อยู่ข้างหน้า แต่เราไม่มีวันมองเห็น

แน่ นอนว่านายโง่จะไปเข้าใจได้ยังไง เขาจึงถามเธอต่อว่า แล้วถ้ามันไม่เห็น เธอจะรู้ได้ยังไงว่าอนาคตมันจะจบที่เขา

เธอบอกว่า เพราะเธออยากหางานทำและมีครอบครัวที่ดีที่เมืองหลวง และนั่นคืออนาคตที่ดีของเธอ ถ้าเธออยู่กับเขามันจะไม่ใช่อนาคตที่ดีแน่

นาย โง่ทำหน้างงๆแต่ก็บอกนางสาวฉลาดไปว่า เราไม่เข้าใจนะ แต่เราจะรอ...

หลัง จากนั้นนางสาวฉลาดก็เข้าไปหางานทำในตัวเมือง นายโง่ก็ได้งานเป็นงานเก็บมะพร้าวในสวน

เพราะเขาโง่เขาจึงไม่ รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวที่ปลอดภัยต้องปีนยังไง, แต่นั่นไม่โง่เท่าการที่เขาไม่รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวให้ตกนั้นมันทำยังไง

เขา ไม่เคยตกต้นมะพร้าวนั่นเอง เขาจึงกลายเป็นนักเก็บมะพร้าวอันดับหนึ่งของโลก

เวลา ผ่า่นไปหลายปี นายโง่ยังคงเก็บมะพร้าวของเขาต่อไป และเฝ้ารอวันที่นางสาวฉลาดจะกลับมา

จนวันที่เขารอคอยก็มาถึง นางสาวฉลาดกลับมาพร้อมด้วยท้องที่ใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตา

แม้ชาว บ้านจะพูดอะไรกันแต่เขาไม่สนใจ, เพราะเขาไม่รู้เรื่อง เขารู้แต่เขาดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง

เขาถามเธอว่าเธอไปกิน อะไรมา ทำไมอ้วนจัง

เธอตอบว่าเธอท้องไม่มีพ่อ บริษัทที่เธอทำงานอยู่ก็ล้มละลาย เธอไม่มีที่ไปเลยกลับมาที่หมู่บ้าน

เขา ไม่เข้าใจว่าท้องไม่มีพ่อคืออะไร อาจจะแปลว่าพ่อของเธอตายไปแล้วก็ได้ นั่นแปลว่าเขาก็ท้องไม่มีพ่อเหมือนกันงั้นสิ, นายโง่คิดในใจ

แล้ว บริษัทล้มละลายคืออะไรกัน มันอาจจะเป็นเพราะเธอทำงานในโรงงานน้ำแข็ง แล้วน้ำแข็งละลายก็เป็นได้, ช่างเป็นความคิดที่โง่อะไรแบบนี้

เธอ ร้องไห้ฟูมฟายและถามนายโง่ว่า เขายังรอเธออยู่หรือเปล่า, เขาตอบว่าไม่ เขากำลังเก็บมะพร้าวอยู่

เป็นคำตอบที่โง่จริงๆ

เธอ ยิ่งร้องไห้หนักเพราะแม้แต่เพื่อนเก่าของเธอก็ไม่คิดถึงเธอ

นาย โง่เหมือนนึกอะไรออกจึงบอกไปว่า จริงสิ ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเก็บมะพร้าว เขาก็กำลังรอเธออยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้คงไม่ต้องรออีกแล้ว, เพราะเธออยู่ตรงนี้แล้ว

เขายิ้มแบบโง่ๆ

นางสาว โง่จึงยิ้ัมมุมปากทั้งๆที่น้ำตายังคลอ ก่อนตอบว่า ขอบใจนะ

นาย โง่ไม่เข้าใจ จึงบอกไปว่าทำไมต้องขอบใจ เพราะการที่เขารอเธอมันไม่ใช่เรื่องที่เธอขอเขา ทำไมต้องมาขอบใจเขาด้วย

นาง สาวหยุดนิ่งไปสักพัก

นายโง่ซึ่งเหมือนนึกอะไรออกอีกแล้วก็พูด ขึ้นว่า เธอยังสวยสำหรับเขาเสมอ มันคงเป็นการสารภาพชอบอีกครั้งของเขา

นาง สาวยิ้มก่อนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง เธอบอกว่าอนาคตของเธอไม่เหลือแล้ว อย่าให้อนาคตของเขาต้องมาจบที่เธอเลย

นายโง่ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจึงบอกเธอไปว่า

เมื่อก่อนเธอบอกว่าอนาคตของเธอจะ มาจบที่ฉัน และเธออยากจะมีอนาคตที่ดี

ตอนนี้เธอบอกว่าอนาคตของเธอมันจบแล้ว และเธอไม่อยากให้ชั้นจบอนาคตไปด้วย

ฉัน ไม่รู้หรอกว่าอนาคตคืออะไร เธอบอกว่ามันคือสิ่งที่อยู่ข้างหน้าแต่มองไม่เห็น

ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าอะไรคืออนาคตของฉัน เพราะฉันคงมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ได้

แต่ ที่ฉันรู้คือข้างหน้าฉันตอนนี้ คือ เธอ


นาง สาวฉลาดหยุดนิ่งก่อนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง เขามองเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอคือรอยยิ้มเหมือนครั้งที่เขาสาร ภาำพชอบเธอในวัยเด็ก

ก่อนที่เขาจะไม่เห็นรอยยิ้มนั้นอีก, เพราะเธอเข้ามากอดเขาและซบหน้าบนตัวเขานั่นเอง

งานแต่งงานถูก จัดขึ้นในหมู่บ้าน มันถูกเรียกว่างานแต่งงานที่พิลึกที่สุดที่เคยมีมาเพราะเป็นการแต่งงานของ หญิงสาวที่ฉลาดที่สุดกับชายหนุ่มที่โง่ที่สุด

เขาบอกกับทุกคน ว่าเขาจะเก็บมะพร้าวดูแลเธอและเด็กในท้องเอง ดูเหมือนจะมีใครบอกเขาว่ามีเด็กในท้องของเธอ

แม้จะมีคนบอกว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา แต่เขาบอกไม่เป็นไร เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือลูก

ก่อน จะมีใครบอกว่าเขาว่าการเป็นพ่อคนทำอย่างไร และการมีครอบครัวเป็นอย่างไร เรื่องเดียวที่เขารู้แน่นอนคือเขาต้องมีความสุขแน่ๆเพราะเขาได้อยู่กับคนที่ เขาชอบ

แม้ไม่มีใครมาบอกเขา, แต่เขาคงรู้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

แม้ไม่มี ใครบอกเรา, แต่เราคงรู้ว่าเขาจะเป็นคนโง่ที่มีความสุขที่สุดในโลกเช่นกัน

 

---------------------------------------------------------------------------------

 

นิทาน เรื่องนี้สอนให้รู้ได้หลายเรื่อง
เรื่องบางเรื่อง ที่คนฉลาดคิดได้ แต่คนโง่อาจคิดไม่ออก
แต่คนที่ทำ ได้จะเป็นคนโง่หรือไม่ก็ไม่ทราบ :P


 
ด้วยรัก

ผมเอง

-------------------------------------------------------------

ไม่ได้อะไรนะครับ ส่วนตัวผมว่ามันสอนอะไรได้หลายๆอย่างจริงๆ
คิดว่ามันน่าจะสื่อถึงนักเรียนแลกเปลี่ยนหลายๆคนได้ ในหลายๆเรื่อง (และไม่ผิดหมวด ฮา)
นี่เป็นผลงานมาสเตอร์พีซ(จริงๆ ชิ้นแรกในชีวิต) แต่คิดว่ามันคงไม่ได้ดีเวอร์ขนาดนั้น เคยเอาลงมาบ้างในบางเว็บไซต์ครับ แล้วคิดว่าอยากจะลองเอาออกสู่สายตาสาธารณชนที่ใหญ่กว่าดู (อนึ่ง..ผมคงไม่ได้มั่นใจอะไรกับผลงานเล็กๆชิ้นเดียวขนาดนั้น การให้ใครหลายคนได้ลองอ่านอาจจะมีคำวิจารณ์ดีๆมาบ้างก็ได้)

ยังไงก็ขอให้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ (และถ้าผิดหมวดผมต้องขอโทษ ฮา)

Offline K!KK@K SUI(SH)#48

  • AFSer Sophomore
  • *
  • Posts: 94
  • Gender: Female
  • EINE SCHOENE FRAU
  • Exchange In: Switzerland
  • Generation: #48 (2009-2010)
เพราะเขาโง่เขาจึงไม่ รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวที่ปลอดภัยต้องปีนยังไง, แต่นั่นไม่โง่เท่าการที่เขาไม่รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวให้ตกนั้นมันทำยังไง

ชอบประโยคเนี้ย 55+

แก้คำว่า "ชั้น" เป็น "ฉัน" ให้หมดด้วยนะคะ (ค่อนข้างจะซีเรียสกับภาษวิบัติ)

โดยรวมแล้ว ดีค่ะ อ่านเรื่อยๆได้ค่ะ
แต่ยังไม่โดน คงเพราะเคยอ่านแบบนี้มาเยอะแล้วมั้ง ==
บางส่วนพลอตเรื่องนี้ยังอ่อนอยู่นะคะ (บังเอิญเป็นพวกชอบจับผิด 55+ ถ้าเราวิจารณ์เรื่องอะไรสักเรื่องเรามักจะติมากกว่าชมนะ) แต่เรื่องพลอตไม่อะไรมากเพราะเป็นเรื่องสั้น

อันนี้สงสัยเฉยๆนะคะ ทำไมเว้นวรรคมันแปลกๆอะ เหมือนเขียนพวกแปลเลย มี , อะไรเงี้ยด้วย ==

Offline Chant ♥ HUN#50

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 206
  • Gender: Female
    • My Facebook
    • Exteen Blog =D ♥
  • Exchange In: Hungary
  • Generation: #50 (2011-2012)
เขาเสียใจมากที่ไม่มีใครพาพ่อของเขาไป "ซ่อม"
^
^
ชอบประโยคนี้ =___=

Offline ALICE

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 177
    • My Facebook
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #50 (2011-2012)
ถึงจะเขาจะโง่มากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้โง่สะจนไม่รู้ว่า รัก คืออะไร
นี้แหล่ะรักแท้
BB pin : 2306828C
Skype : alice1221alice
Email : [email protected]

Offline nonamey

  • AFSer Senior
  • *
  • Posts: 272
    • My Facebook
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #50 (2011-2012)

"ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าอะไรคืออนาคตของฉัน เพราะฉันคงมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ได้

แต่ ที่ฉันรู้คือข้างหน้าฉันตอนนี้ คือ เธอ"
  ชอบๆๆๆ ^^
~No Me Importa Si Todos Te Miran  No Me Importa Lo Que Digan De Ti  No Me Importa Como Pasa El Tiempo  Sabiendo Yo Que Tu Me Quieres!!!!

Offline ⒷⒶⓜⒷ ●ω●

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 110
  • Gender: Female
    • My Facebook
  • Exchange In: Bolivia
  • Generation: #50 (2011-2012)

"ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าอะไรคืออนาคตของฉัน เพราะฉันคงมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ได้

แต่ ที่ฉันรู้คือข้างหน้าฉันตอนนี้ คือ เธอ"
  ชอบๆๆๆ ^^

ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
facebook : http://www.facebook.com/bikibamb
skype : bikibamb


บ้านเกรียน + บัสสอง <3<3
เอเอฟเอสเอสเอช.
Los amo ;3

Offline ฃื่อปั๊บคับ นอร์เวย์ คับ

  • AFSer Honor Graduate
  • *
  • Posts: 2852
  • Gender: Male
  • Klæbu , Norway
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
เพราะเขาโง่เขาจึงไม่ รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวที่ปลอดภัยต้องปีนยังไง, แต่นั่นไม่โง่เท่าการที่เขาไม่รู้ว่าการปีนต้นมะพร้าวให้ตกนั้นมันทำยังไง

ชอบประโยคเนี้ย 55+

แก้คำว่า "ชั้น" เป็น "ฉัน" ให้หมดด้วยนะคะ (ค่อนข้างจะซีเรียสกับภาษวิบัติ)

โดยรวมแล้ว ดีค่ะ อ่านเรื่อยๆได้ค่ะ
แต่ยังไม่โดน คงเพราะเคยอ่านแบบนี้มาเยอะแล้วมั้ง ==
บางส่วนพลอตเรื่องนี้ยังอ่อนอยู่นะคะ (บังเอิญเป็นพวกชอบจับผิด 55+ ถ้าเราวิจารณ์เรื่องอะไรสักเรื่องเรามักจะติมากกว่าชมนะ) แต่เรื่องพลอตไม่อะไรมากเพราะเป็นเรื่องสั้น

อันนี้สงสัยเฉยๆนะคะ ทำไมเว้นวรรคมันแปลกๆอะ เหมือนเขียนพวกแปลเลย มี , อะไรเงี้ยด้วย ==

ชั้น มีคำนึง - - ขอบคุณครับ ยังอุตส่าห์จับผิด

แต่ถ้าคนเขียนเขียนถูกหมด แล้วพิสูจน์อักษรจะมีไว้ทำไมจริงมั้ยครับ 5555555


เรื่องพลอตถ้ามีคนบอกว่าเข้มข้นสิครับจะแปลกใจ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่านิทาน มันก็มีอยู่พลอตเดียวอ่ะครับ ไม่มีความเข้มข้นซับซ้อนหรอกนะ ฮ่าๆ

ไม่โดนก็ไม่อะไรนะครับ เพราะคิดว่าคงไม่มีเรื่องไหนที่สามารถทำให้โดนใจทุกคนได้เหมือนกัน แล้วก็ขอโทษที่เรื่องนี้ค่อนข้างจะไม่แหวกแนวนะครับ เพราะผมตั้งใจแต่งให้ไม่แหวกแนวจริงๆ 5555


เรื่องเว้นวรรคแปลกๆ อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะทีแรกผมพิมพ์ลงเฟซบุ๊ค พอก๊อบมาจากเฟซบุ๊คก็เป็นอย่างที่เห็นครับ จะให้แก้หมดก็แอบขี้เกียจน่ะนะ ฮ่าๆ
ส่วนเรื่อง , นี้ผมแค่เอามาปรับใช้เฉยๆครับ เห็นนักเขียนปัจจุบันหลายท่านเอาตัวนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์

มันทำได้ทั้งขยายข้อความ เน้นข้อคำ ทำให้ประโยคดูเด่นขึ้นอีกนะครับ ฮ่าๆ

อย่างไรก็ขอบคุณนะครับ มีคอมเม้นเยอะแยะเลย แล้ววันหน้าจะพยายามต่อไปนะครับ ^^

Offline --No๐K GeR49--

  • AFSer Novice
  • *
  • Posts: 4
  • Whose THIS??
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
ชอบๆๆๆครับ
ซึ้งนะ แต่งดีจังเลยครับ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง
สำหรับผมเรื่องนี้สุดยอดมากครับ
ROSE FUNERAL FC

-------49-------------

Offline HammY [SH] GER#49

  • AFSer Honor Graduate
  • *
  • Posts: 1697
  • Gender: Female
  • เคืองอะไรเคลียร์กันหลังไมค์ (PMมาได้)
  • Exchange In: Germany
  • Generation: #49 (2010-2011)
เรื่องโง่ๆ แต่แอบซึ้งเนอะ
เจด ภูมิ(2) เปรม วิน ยอด เพชร ภูมิ(1) ปัณ กิด บอส
หลิน จ๋อม มิ้นท์ ฟีฟี่ ป่าน แพร ปลา
นิว แก้มแหม่ม ฟอง เนย แฮม โม แอน น้ำ
25 ชีวิต AFS GER (SH) 49 !!!

Offline Pamela

  • AFSer Freshmen
  • *
  • Posts: 25
  • Gender: Female
  • Fightinggggggg !! :)
    • My Facebook
  • Exchange In: Canada
  • Generation: #50 (2011-2012)
ชอบมากกกกกกกกกก :DD

Offline K!KK@K SUI(SH)#48

  • AFSer Sophomore
  • *
  • Posts: 94
  • Gender: Female
  • EINE SCHOENE FRAU
  • Exchange In: Switzerland
  • Generation: #48 (2009-2010)
อ้าว มีคำเดียวเหรอ? 55+
บังเอิญมีเข้าตา ก็เลยพิมพ์บอกไว้ ไม่ได้ดูหรอกว่าพิมพ์ไปกี่คำ --+
เป็นพิสูจน์อักษรให้หลายคนบ่อยๆจริงๆล่ะ =[ ]=

เง้อ แล้วเรื่องพลอตอ่อนนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่เข้มข้นนะคะ ไงดีล่ะ เหมือนมีบางตอนที่อ่านแล้วไม่สมเหตุผล แต่ก็ช่างเถอะ นิทานก็นิทาน ไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ ^^

มันติดนิสัยวิจารณ์มาจากบอร์ดนักเขียนน่ะค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ที่นั่นมักจะติมากกว่าเพื่อให้นักเขียนไปพัฒนาฝีมือ ^^

ยังไงก็สู้ๆนะคะ แต่งมาอีกๆ ^^
« Last Edit: January 20, 2011, 10:28:29 PM by K!KK@K SUI(SH)#48 »

Offline ⒷⒶⓜⒷ ●ω●

  • AFSer Junior
  • *
  • Posts: 110
  • Gender: Female
    • My Facebook
  • Exchange In: Bolivia
  • Generation: #50 (2011-2012)
ชอบนะ พล็อตเรื่องทำให้ร้องไห้ได้น้ำตาซึมๆ  :grin:
facebook : http://www.facebook.com/bikibamb
skype : bikibamb


บ้านเกรียน + บัสสอง <3<3
เอเอฟเอสเอสเอช.
Los amo ;3

Offline ฃื่อปั๊บคับ นอร์เวย์ คับ

  • AFSer Honor Graduate
  • *
  • Posts: 2852
  • Gender: Male
  • Klæbu , Norway
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #49 (2010-2011)
อ้าว มีคำเดียวเหรอ? 55+
บังเอิญมีเข้าตา ก็เลยพิมพ์บอกไว้ ไม่ได้ดูหรอกว่าพิมพ์ไปกี่คำ --+
เป็นพิสูจน์อักษรให้หลายคนบ่อยๆจริงๆล่ะ =[ ]=

เง้อ แล้วเรื่องพลอตอ่อนนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่เข้มข้นนะคะ ไงดีล่ะ เหมือนมีบางตอนที่อ่านแล้วไม่สมเหตุผล แต่ก็ช่างเถอะ นิทานก็นิทาน ไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ ^^

มันติดนิสัยวิจารณ์มาจากบอร์ดนักเขียนน่ะค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ที่นั่นมักจะติมากกว่าเพื่อให้นักเขียนไปพัฒนาฝีมือ ^^

ยังไงก็สู้ๆนะคะ แต่งมาอีกๆ ^^
คือจริงๆมันก็เป็นเหตุผลที่ผมจะใช้ตอบเวลามีคนบอกมันไม่สมเหตุผลสมผลนั่นแหละครับ

แต่ไหนๆก็พูดแล้วอยากให้บอกด้วยเลย จะได้รู้ไว้ในการแต่งครั้งต่อไปที่มันอาจจะต้องจริงจังขึ้นน่ะครับ :D

Offline BaTinaMilkshake

  • AFSer Freshmen
  • *
  • Posts: 42
  • Gender: Female
  • My dear Alfred, one more year then we'll be one
    • My Facebook
  • Exchange In: United States
  • Generation: #50 (2011-2012)
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆอ่ะค่ะ
เพราะว่าโลกนี้มีคนฉลาดหลายคนที่ไม่มีคนโง่พอจะรักเราได้ขนาดนี้

“At the heart of racism is the religious assertion that God made a creative mistake when He brought some people into being”


Oh Baby say Goodbye Oh 잠시만 Goodbye 안녕이란 말은 잠시 접어둘게

As long as it takes, as long as I last.

Offline OmTammada

  • AFSer Sophomore
  • *
  • Posts: 65
  • Gender: Female
    • My Facebook
  • Exchange In: Norway
  • Generation: #50 (2011-2012)
พี่ปั๊บแต่งสุดยอดเลยค่ะ หนูว่าซับซ้อนดีอ่ะ ^O^
มันซึ้งมากๆเลยค่ะ TT TT


ถึงนายโง่จะโง่ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าคนที่ฉลาดแกมโกง
ถึงนายโง่เป็นคนซื่อๆโง่ๆ อย่างน้อยเขาก็คงจะเป็นพ่อและสามีที่ดีในอนาคต
ถ้าเจอคนอย่างนี้ เวลาคุยคงจะอารมณ์เสียมากอยู่ แต่อย่างน้อยเค้าก็จริงใจกับเรา ^^

แต่นิทานเรื่องนี้สอนได้หลายๆเรื่องอย่างที่พี่ปั๊บบอกจริงๆเลยค่ะ
พี่ปั๊บแต่งต่ออีกสิคะ ^O^ อ่านแล้วได้คิดอะไรที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะ
We are ELF!~
우리는 엘프 예요!
---
No need to say goodbye~