พฤหัสที่ 30 เมษา สิ่น๊ะ !!
เจอกัลล์กี่โมงค๊ะ ?
เคยได้ยินข่าวผีหน้าเดอะมอลล์ป้ะ ??
ไปลองของตอนกลางคืนกัลล์เลยมั้ย ?
เป็นที่เลื่องลือกันว่าผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์
งามวงศ์วานนี้คือหญิงสาวที่เคยใช้ที่จอดรถของ
ห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างฯ
ได้ทำลวดตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมดทุกด้าน
เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้เป็นสุสานอีกแต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่า
มีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ
เรื่องข่าวลือนี้นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่)
ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็ได้ยินมาเหมือนกัน
แต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ
แกจึงไม่เชื่อแล้วแกยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วาน
และใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะรายได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอนดึก ๆ
ไม่ค่อยมี แท็กซี่กล้าขับผ่านมา
เรื่องของเรื่องคือมีอยู่วันหนึ่งดึกมากแล้ว
นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ฯ
ก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ
ฉับพลันที่เห็น
นายกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ
ชาวแท็กซี่โจษขานถึงเรื่องผีดุกันขึ้นมาทันที
แต่ความที่แกเป็นคนกล้าประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็ดูว่าเป็นคนชัดๆ
แกจึงจอดรถเข้าไปรับ
พอหญิงสาวเปิดประตูรถกลิ่นน้ำหอมฉุน
กึกก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที
"โชเฟอร์ไปแถววัดธาตุทองนะจะไปมั้ย ?"
หญิงสาวถาม " ไปครับผม" นายกล้าตอบ ในใจคิดว่า
ไม่ใช่วัดสมรโกฏิแบบที่ลือกัน
นี่หว่า หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับบอกนายกล้าว่า
"ไปทางด่วนนะ"
นายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรงไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน
กลางดึกเช่นนั้นทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคัน
กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูกอยู่บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึด
อัดถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่
ได้เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
แกก็เลยชวน
คุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนี้ " รอรถนานมั้ยครับ"
นายกล้าถามหญิงสาว "นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้"
หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ
"ก็มีข่าวลือเรื่อง...เอ้อ.....เรื่องผีแถวนี้ดุสิครับ
เลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้"
นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าทีหญิงสาว
หญิงสาวหันขวับมามองนายกล้าทันที
"มิน่าล่ะเมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่มีใครจอดเลย
แล้วนายไม่กลัวเหรอ ?"
หญิงสาว ถามนายกล้ากลืนน้ำลาย " เอ้อ...ไม่กลัวครับ" "ก็ดี"
หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าต่าง
นายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ
บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้ง
เงียบจนนายกล้าได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเพียงคนเดียว!
นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลังเมื่อนึกขึ้นได้
ทันใดนั้น! หัวใจของแกแทบจะหยุดเต้น
เมื่อเห็นภาพในกระจกเบาะหลัง
ว่างเปล่า
ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งคุยมาด้วยกันเมื่อกี้
นี้เลย! "ship หายแล้ว ku เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่
โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ " นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ
ของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้ง
อยู่ในรถ มือที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน
เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ในรถเย็นเฉียบ
ขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว
บทสวด มนต์กี่บท ๆ ที่นึกได้ นายกล้าท่องจนหมด
กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหน
ยังลอยอบอวลคลุ้งอยู่ ในรถ แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป
มนต์บท แล้วบทเล่าที่นายกล้าท่องไม่ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย
นายกล้าแหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้ง เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่
มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่า " เธอ" ยังไม่ไปไหน นายกล้าเหยียบคัน
เร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ ทั่วเมืองไทยให้มาอยู่เป็น เพื่อนเขา
ใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็วๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหาย
ไปเพราะ " เธอ" คงต้องการไปลงที่นั่นจริง ๆ
" โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ "
นายกล้าคิดในใจ ขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิด
นายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมา
ติดไฟแดงตรงเชิงทางด่วน นายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้ง
ก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไปมองกระจกส่องหลัง
และแล้ว นายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง มือเท้าเย็นวาบ
แทบจะหมดแรง ขนลุกซู่ทั้งตัว เหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะต้นคอ
ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือ
หญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะเหลัง
อีกครั้ง แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป!
ใบหน้าของเธอมีเลือดไหลออกทาง
จมูก และปาก นายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
" เป็นไง เป็นกันวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะถามให้รู้เรื่องกันไปว่า "เธอ" ต้องการอะไรกันแน่ "
พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับ "เธอ" ผู้นั้น
ก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า "คุณเป็นอะไรตาย ?"
" ตายพ่อ ตายแม่(-ท่าน-)สิ" เสียงหญิงสาวคนนั้นตอบดังลั่นรถ
"ไอ้ห (') า! กู ก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว มึงเหยียบซะหน้าตากูแหกหมด"
ไร้สาระ แก้เครียด* - -"
อย่ามาโดดถีบเค้าน๊ะ !!